ก่อนหน้านี้ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ประกาศว่าจะเริ่มบังคับใช้กฎหมายเกณฑ์ทหารอย่างเต็มรูปแบบ ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงของประเทศ ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดที่ยังคงดำเนินอยู่บริเวณชายแดนกับประเทศไทย

ล่าสุด 8 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา รายการ ทุบโต๊ะข่าว เผยแพร่คลิปพูดคุยกับ นายสรรหา (สงวนนามสกุล) อายุ 67 ปี ชาวไทยที่เคยถูกรัฐบาลกัมพูชาจับไปเป็นทหารเมื่อราว 40 ปีก่อน ในช่วงที่สมเด็จฮุนเซนยังไม่เป็นนายกรัฐมนตรี เล่าว่าขณะนั้นตนเป็นสมาชิกกลุ่มคอมมิวนิสต์ไทย อาศัยทำมาหากินบริเวณชายแดนและอยู่กับชาวบ้านกัมพูชาโดยไม่บอกว่าเป็นคนไทยเพราะเกรงจะถูกฆ่า ชาวกัมพูชาให้ทำนาแลกกับข้าวกินวันละ 2 มื้อ ทำงานตั้งแต่ 11.00-23.00 น. ไม่มีค่าจ้าง อยู่ราว 1 ปี

ต่อมาเกิดเหตุเวียดนามเข้ารบกับกัมพูชา ทำให้ทางการกัมพูชาตระเวนเกณฑ์ชายอายุ 18 ปีขึ้นไป เจ้าของบ้านที่ตนอาศัยอยู่จดชื่อตนและเพื่อนส่งให้รัฐบาลกัมพูชา ตนถูกนำตัวไปฝึกทหาร 3 เดือน โดยฝึกเพียงการฟังนโยบายและการหลบหนี ไม่ได้จับปืนซ้อมยิง แต่เมื่อเข้าสู่สนามรบจริงถูกส่งไปชายแดนเป็นเวลา 3 ปี ได้ปืนอาก้าคนละ 1 กระบอก พร้อมชุดทหาร แต่ไม่มีอุปกรณ์ป้องกัน

ภาพจาก รายการ ทุบโต๊ะข่าว

ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ได้รับเงินเดือน 90 เรียล หรือราว 0.73 บาท จ่ายทุก 3 เดือน อาหารได้หมูกระป๋องคนละ 7 กระป๋องต่อเดือน ต้องแบ่งกินกับเพื่อน 3-5 คน เคยพยายามหนี 2 ครั้ง ครั้งแรกหนีไปบ้านชาวกัมพูชาที่เคยอยู่แต่ถูกจับกลับมา ครั้งที่สองปรึกษาเพื่อนทหารกัมพูชาและได้รับคำแนะนำว่าหากจะหนีต้องออกนอกแผ่นดินเขมร ไม่เช่นนั้นจะถูกฆ่า

นายสรรหา ระบุว่าทหารกัมพูชาส่วนใหญ่อายุ 18-60 ปี มักถูกบังคับเกณฑ์ แม้มีครอบครัวก็ต้องไปเป็นทหาร และในช่วงนั้นทหารกัมพูชามักบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากกับดักระเบิดที่ฝ่ายตนเองวาง เพราะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มและสู้กันเอง โดยบางกลุ่มอยู่ภายใต้การควบคุมของทหารเวียดนาม

ที่มา รายการ ทุบโต๊ะข่าว