เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 4 ธันวาคม จ.จันทบุรี ว่า ร.ต.ท.ศุภชัย กู้เกียรติ สว.สส.สภ.นายายอาม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่วิทยาการพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวร รพ.นายายอาม และอาสากู้ภัยสว่างกตัญญูจันทบุรี ตรวจสอบเหตุฆาตกรรมหลังพบศพชายนิรนาม ถูกมัดมือมัดเท้ายัดใส่ถังพลาสติกทิ้งอยู่ข้างกอไผ่ริมทาง ที่ บ้านห้วงหิน หมู่ 6 ตำบลนายายอาม ชุดสืบลงพื้นที่แกะรอยล่าตัวคนร้าย
ที่เกิดเหตุพบถังขยะพลาสติกสีดำสูงประมาณ 1 เมตร ไม่มีฝาปิด ล้มตะแคงอยู่ในกอไผ่ห่างจากถนนคอนกรีตประมาณ 5 เมตร ภายในถัง พบมีห่อผ้าขนาดใหญ่อัดแน่น โดยมีอวัยวะส่วนหลังของมนุษย์ โผล่ออกมาให้เห็นอย่างน่าสยดสยอง ส่งกลิ่นเหม็นเน่าไปทั่วบริเวณ เจ้าหน้าที่จึงประสานกู้ภัยฯ นำร่างออกจากถังทำการตรวจสอบ
เบื้องต้นพบร่างผู้เสียชีวิต เป็นชายนิรนาม ถูกห่อด้วยผ้าถึง 3 ชั้น ได้แก่ ชั้นแรกผ้าห่มสีเหลือง ชั้นที่สองผ้าถุงสีดำลายดอก และชั้นที่สามผ้าถักตาข่าย สภาพศพ ข้อมือถูกมัดด้วยเชือกรองเท้า ส่วนข้อเท้าถูกมัดด้วยเชือกร่มร้อยกางเกงกีฬา โดยศพอยู่ในลักษณะคุดคู้งอตัวอยู่ในถัง สภาพเปลือย เริ่มเน่าเปื่อย คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 5-6 วัน
จากการชันสูตรเบื้องต้น ยังไม่สามารถตรวจสอบบาดแผลได้อย่างชัดเจนว่าถูกทำร้ายด้วยของมีคม ของแข็ง หรือด้วยวิธีอื่น ขณะเจ้าหน้าที่วิทยาการ ได้ทำการเก็บหลักฐาน และวัตถุพยานในที่เกิดเหตุ พร้อมส่งร่างผู้เสียชีวิตให้แพทย์นิติเวช รพ.พระปกเกล้า เพื่อทำการผ่าชันสูตรหาสาเหตุการตายที่ชัดเจน และยืนยันตัวตน
ขณะชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่หาข่าว โดยได้สอบปากคำ นายสันติ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี ชาวสวนที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ ให้การว่าตนเองเห็นถังพลาสติกใบดังกล่าวมาประมาณ 2 วันแล้ว แต่ไม่ได้กลิ่น และไม่ได้เอะใจ เนื่องจากคิดว่ามีคนนำขยะมาทิ้ง เพราะบริเวณดังกล่าวมักมีคนนำขยะมาทิ้งบ่อยครั้ง พร้อมทั้งระบุว่าจากการสังเกตุรูปพรรณของผู้เสียชีวิต ตนไม่เคยเห็นมาก่อน เชื่อว่าไม่น่าใช่คนในพื้นที่
นอกจากนี้ แนวทางการสืบสวนยังได้พบเบาะแสจากชาวบ้านและร้านค้าใกล้เคียงว่า ได้ยิน เสียงสุนัขเห่าผิดปกติ เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. ของคืนวันที่ 28 พ.ย.68 ที่ผ่านมา ซึ่งนับว่าเป็นเบาะแสที่สำคัญ
เบื้องต้นจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ และการสอบปากคำพยานแวล้อม เจ้าหน้าที่คาดว่า ผู้เสียชีวิตน่าจะถูกฆาตกรรมจากที่อื่นแล้วคนร้ายได้นำศพยัดใส่ถังพลาสติกมาทิ้งอำพรางคดีในจุดดังกล่าว ซึ่งชุดสืบสวนกำลังเร่งไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในพื้นที่และเส้นทางใกล้เคียง เพื่อแกะรอยติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้เร็วที่สุด