วานนี้ (25 พ.ย. 2568) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกัน หน้าร้านค้าริมถนนมิตรภาพสายเก่า ข้างวิทยาลัยเทคนิคแห่งหนึ่ง ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส นำส่งโรงพยาบาลกรุงเทพปากช่อง หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนจะพร้อมด้วย หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างวิชชาธรรมสถาน ปากช่อง เดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุบริเวณหน้าร้านค้า พบรอยเลือดหยดเป็นทาง สอบถามนักศึกษาของวิทยาลัยเทคนิค ซึ่งอยู่ในในช่วงพักกลางวัน ต่างจับกลุ่มคุยกันและวิพากษ์วิจารณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนผู้บาดเจ็บ คือ นายนราวิชญ์ อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้น ปวช.3 แผนกไฟฟ้า ได้ช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลกรุงเทพปากช่อง อาการสาหัส แต่ผู้บาดเจ็บทนพิษบาดแผลไม่ไหว ได้เสียชีวิตก่อนที่จะถึงโรงพยาบาล
ส่วนผู้ก่อเหตุ คือ นายภี (นามสมมติ) อายุ 17 ปี นักศึกษา ปวช.1 แผนกช่างกล อยู่ในชุดลูกเสือ กำลังเคลียร์ปัญหากับรุ่นพี่หลายคนที่สวมชุดช็อปสีกรมท่า มีการให้ของลับ จากนั้น รุ่นพี่ที่ยืนด้านหน้าเตะ ด้วยเท้าขวา รุ่นพี่ที่คุมเชิงอยู่ด้านหลังล็อคคอและชกไปที่ลำตัว นายภี รุ่นน้องมือยิง ถอยหลัง และชักอาวุธปืนพกสั้นยิงใส่รุ่นพี่ ต่างวิ่งหนีกระเจิง แต่นายนราวิชญ์ หลบกระสุนไม่ทันจึงถูกยิงเข้ากลางอก และมีเพื่อนนักศึกษาหญิงและชายที่นั่งบนโต๊ะหินอ่อนแอบถ่ายคลิปวิดีโอ ตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุจนถึงช่วงเกิดเหตุ มีนักศึกษาหญิงกรีดร้องด้วยความตกใจ
หลังก่อเหตุ นายภี รุ่นน้องมือยิง ได้ขี่รถ จยย.กลับไปบ้านพัก เพื่อจะเก็บเสื้อผ้าหลบหนีไปจังหวัดเพชรบุรี แต่กำลังตำรวจชุดสายสืบติดตามไปจับกุมตัวไว้ได้ นำตัวมาสอบสวน เบื้องต้นทราบว่า มีปัญหากับรุ่นพี่ในการเข้าค่ายลูกเสือ ทั้งที่ก็เป็นเพื่อนอยู่ในกลุ่มเดียวกัน แต่วันนี้นัดมาเคลียร์ปัญหากัน กลับถูกรุ่นพี่รุมสกรัม จึงชักอาวุธปืนพกสั้น แบบบีบีกันดัดแปลง สีสแตนเลส ใช้กระสุนขนาด .380 มม. ซื้อจากอินเตอร์เน็ตเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ในราคา 6,000 บาท ช่วงเช้าใส่กระสุนไว้ 7 นัด ขณะเกิดเหตุได้ยิงไปจำนวน 4 นัด ให้การรับสารภาพว่า รุ่นพี่รุมก่อน ตนคนเดียวจึงใช้อาวุธปืนที่เตรียมมายิงใส่เลย และยังทราบว่า นายภี ผู้ก่อเหตุครอบครัวมีปัญหา บิดาติดคุก มารดามีครอบครัวใหม่ อาศัยอยู่กับย่า
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้น ร.ต.ท.เรวดี รอง สว.(สอบสวน) สภ.ปากช่อง จะได้เชิญคณะสหวิชาชีพ ร่วมสอบปากคำผู้ก่อเหตุที่มีอายุ 17 ปี ก่อนแจ้งข้อกล่าวหาx่าคนxายโดยเจตนา นำตัวส่งสถานพินิจนครราชสีมาต่อไป