ชรบ.ชายแดนลุกฮือ! แห่พาลาออก หลังโดน ผญบ.หักเบี้ยเลี้ยงเหลือแค่หลักร้อย
ข่าวภูมิภาค

ชรบ.ชายแดนลุกฮือ! แห่พาลาออก หลังโดน ผญบ.หักเบี้ยเลี้ยงเหลือแค่หลักร้อย

วันที่ 12 พฤศจิกายน 2568 ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน หรือ ชรบ. หมู่บ้านแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ หลายนาย ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวนและดูแลความเรียบร้อยร่วมกับเจ้าหน้าที่รัฐ โดยเฉพาะช่วงสถานการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ออกลาดตระเวนทุกคืน

ชรบ.กลุ่มนี้เข้าร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดบุรีรัมย์ และร้องนายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋น บุรีรัมย์ ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมนำหลักฐานสลิปการเบิกถอนเงินและคลิปวิดีโอขณะนำเงินเบี้ยเลี้ยงที่รัฐบาลอนุมัติจ่ายเป็นค่าตอบแทนความเสียสละและขวัญกำลังใจ จำนวน 3,600 บาท ไปจ่ายให้ผู้ใหญ่บ้านที่เรียกเก็บ

ชรบ.กลุ่มนี้อ้างว่า ถูกผู้ใหญ่บ้านเรียกเก็บเงินเบี้ยเลี้ยงจาก ชรบ.ในหมู่บ้านจำนวน 18 นาย คนละ 3,600 บาท อ้างว่าจะนำไปจ่ายค่าตัดชุด ชรบ.และค่าฝึกอบรม แต่เหลือคืนให้คนละ 300 บาท สร้างความไม่พอใจแก่ ชรบ. เพราะที่ผ่านมาอาสาปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละ ทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายส่วนตัว เช่น ค่าน้ำมันรถเวลาทำภารกิจ และไม่เคยเรียกร้องค่าตอบแทนใด ๆ มีเพียงชุดปฏิบัติหน้าที่และอาหารให้เท่านั้น

ในช่วงที่เกิดการสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา รัฐบาลอนุมัติเงินเบี้ยเลี้ยงให้วันละ 240 บาท รวม 15 วัน รวมเป็นคนละ 3,600 บาท แต่กลับถูกผู้ใหญ่บ้านเรียกเก็บ อ้างใช้จ่ายค่าตัดชุดและค่าฝึกอบรม ทั้งที่ส่วนใหญ่มีชุดอยู่แล้ว และการฝึกอบรมที่ผ่านมาไม่เคยถูกเรียกเก็บ ทำให้ ชรบ.เสียความรู้สึก จึงทยอยนำปืนไปส่งคืนและลาออกจากการเป็น ชรบ.แล้ว 8 นาย

ตัวแทน ชรบ.อำเภอบ้านกรวด 2 นาย ที่ตัดสินใจลาออก เพราะไม่พอใจที่ถูกเรียกเก็บเบี้ยเลี้ยง เล่าว่า ได้เป็น ชรบ.มาไม่น้อยกว่า 10 ปี ที่ผ่านมาภาครัฐจะจัดชุดให้ฟรี และฝึกอบรมไม่เคยเรียกเก็บเงิน เวลามีภารกิจร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ก็จะมีข้าวกล่องให้ เพราะ ชรบ.ไม่มีเงินเดือนหรือค่าตอบแทน ทำงานด้วยความเสียสละเพื่อดูแลความเรียบร้อยในหมู่บ้านของตัวเอง จึงไม่เคยเรียกร้องอะไร

เมื่อรัฐบาลอนุมัติเบี้ยเลี้ยงในช่วงความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา จำนวน 3,600 บาทต่อคน ชรบ.ดีใจเพราะถือเป็นขวัญกำลังใจในการเสียสละ แต่พอได้รับเบี้ยเลี้ยงครั้งแรก กลับถูกเรียกเก็บเกือบหมด เหลือคืนให้เพียงคนละ 300 บาท จึงตัดสินใจลาออกและอยากให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง

ผู้ใหญ่บ้านที่ถูกกล่าวหา แต่ไม่พบเพราะไปประชุม จึงโทรสอบถาม ผู้ใหญ่บ้านระบุว่าไม่สะดวกให้ข้อมูล ขณะที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแจ้งว่าได้ส่งเรื่องให้ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอตรวจสอบอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง ยังไม่ได้แจ้งผลกลับมา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง