วันที่ 10 พ.ย.2568 สถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยายังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยาได้มีการปรับเพิ่มการระบายน้ำจากเดิม 2,700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที มาเป็น 2,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ในหลายพื้นที่ทางด้านตอนบน และพื้นที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาลงไป ได้รับผลกระทบน้ำทะลักเข้าท่วมพื้นที่ชุมชน และพื้นที่ทางการเกษตร
ขณะที่ ปัจจุบัน สถานการณ์น้ำที่สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่านจุดวัดอยู่ที่ 2,971 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ที่สถานี C.13 เขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท มีปริมาณน้ำทางด้านเหนือเขื่อนอยู่ที่ 17.71 เมตร/รทก. มีปริมาณน้ำทางด้านท้ายเขื่อนอยู่ที่ 16.49 เมตร/รทก. และเขื่อนเจ้าพระยามีอัตราการระบายน้ำอยู่ที่ 2,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

ด้าน กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (กอ.ปภ.ชัยนาท) รายงานตัวเลข ปัจจุบัน จ.ชัยนาท มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยแล้ว จำนวน 4 อำเภอ พื้นที่เหนือเขื่อนเจ้าพระยา 3 อำเภอ ได้แก่ อ.มโนรมย์ อ.เมืองชัยนาท และ อ.วัดสิงห์ และพื้นที่ด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา 1 อำเภอ ได้ อ.สรรพยา โดยมีผู้ประสบอุทกภัยแล้วกว่า 17 ตำบล 59 หมู่บ้าน เขตเทศบาล 10 ชุมชน และผู้ประสบภัยแล้ว 4,944 ครัวเรือน
ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยาได้ทำการหน่วงน้ำไว้เหนือเขื่อน ทำให้พื้นที่เหนือเขื่อนอย่าง ต.ศิลาดาน อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท ได้รับผลกระทบเป็นรอบที่ 4 ติดต่อกันในเวลาไม่ถึง 2 เดือน ชาวบ้านต้องอพยพมาอยู่ริมถนนบ้าง ย้ายขึ้นไปชั้น 2 บ้าง เพราะบ้านที่อยู่ติดริมแม่น้ำทั้งหมดเข้าท่วมเต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงเมตรกว่าเป็นต้นไป
ส่วนที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักคือพืชผลของเกษตรกร ทั้ง กล้วย ถั่ว ข้าวโพด ส้มโอ ได้รับผลกระทบร่วมหลาย 100 ไร่ หากท่วมนานไปกว่านี้จะทำให้ต้นส้มโอนั้นรากเน่าตาย เสียหายนับล้านบาทเลยทีเดียว ชาวบ้านหมู่ 6 ต.ศิลาดาน กล่าวว่า น้ำท่วมรอบที่ 4 ขึ้น ๆ ลง ๆ ทำความสะอาดบ้านทาสีไปแล้ว 3 รอบ น้ำมา ๆ ลด ๆ 3 รอบแรกเราทำใจได้ แต่รอบนี้ขึ้นพรวด ๆ ท่วมตอนกลางคืนขนของก็แทบจะไม่ทัน
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปล่อยน้ำแบบไม่สนใจ ไม่ชี้แจงชาวบ้านเลย ผักต่าง ๆ ที่ปลูกอย่างมะเขือยาว ถั่วฝักยาว มะระจีน แตงล้านก็พังเสียหาย ปลูกผักก็ไม่ได้ เพราะจริง ๆ ตอนนี้ต้องเริ่มปลูกกันแล้วเก็บเกี่ยวช่วงกุมภาพันธ์ ที่นี่ปลูกผักส่งให้ตลาดไท วันละเกือบ 15 ตัน แต่ก็ต้องสะดุด เพราะปลูกไม่ได้มีแต่น้ำทั้งนั้น ปีนี้น้ำมากกว่าปี 65 ท่วมยืดเยื้อ ปกติท่วมเดือนเดียวก็จบ รอบนี้ขึ้น ๆ ลง ๆ ท่วมมา 2 เดือนแล้ว

ด้านเกษตรกรชาวสวนส้มโอ อายุ 74 ปี กล่าวว่า ตอนนี้น้ำที่ท่วมทำส้มโอต้นเล็กตายไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนต้นใหญ่ ถ้าท่วมนานกว่านี้อีก 1 เดือนก็ตายเหมือนกันรากเน่า ถึงแม้ว่าจะไม่ตายแต่ผลผลิตที่ออกมาก็ไม่ได้คุณภาพ เงินเยียวยาก็ไม่เข้าเกณฑ์เพราะไม่ได้ยืนต้นตาย ไม่ใช่พืชล้มลุก ถึงได้เยียวยาก็แค่ไร่ละ 1,000 บาท
ส้มโอใช้เวลา 3-5 ปี จะออกผล ต้องดูแลรักษาค่าปุ๋ยยาก็ปาไปเท่าไหร่แล้ว ยังไงก็ไม่พอ เกษตรกรในพื้นที่ ต.ศิลาดาน ปลูกส้มโอรวม ๆ กันกว่า 10 ไร่ ประมาณ 400 ต้น ต้นหนึ่งออกผลได้ประมาณ 200 กิโลกรัม มูลค่าตกต้นละ 10,000 บาท ลองคิดเล่น ๆ ถ้าเสียหายทั้งหมดก็ตก 4 ล้านบาทแล้ว กว่าจะโตก็ต้องมาเจอน้ำท่วมอีก ได้แต่ทำใจนั่งนับวันรอต้นส้มโอตายต่อหน้าต่อตา
