หนุ่มใหญ่วัย 56 เพิ่งซื้อรถเก๋งมาใหม่ ชวนเพื่อนนั่งก๋งเหล้าขาวฉลอง พอเมาได้ที่อยากดื่มต่อ จึงขับรถออกไป แต่รถเกิดเสียหลักพุ่งชนเสาไฟ เพลิงลุกไหม้ท่วมวอดทั้งคัน
ข่าวภูมิภาค

หนุ่มใหญ่วัย 56 เพิ่งซื้อรถเก๋งมาใหม่ ชวนเพื่อนนั่งก๋งเหล้าขาวฉลอง พอเมาได้ที่อยากดื่มต่อ จึงขับรถออกไป แต่รถเกิดเสียหลักพุ่งชนเสาไฟ เพลิงลุกไหม้ท่วมวอดทั้งคัน

เมื่อวันที่ 8 พ.ย.68 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.อนุสรณ์ ศรีพรม รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ถาวร ได้รับแจ้งมีรถเก๋งชนเสาไฟฟ้าแสงสว่างข้างทางแล้วเกิดเพลิงลุกไหม้ บนถนนสาย ตะโก - ละหานทราย (เส้น 2117) บริเวณบ้านเขาดิน ต.ยายแย้มวัฒนา อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ จึงประสานหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรม จุด อ.เฉลิมพระเกียรติ เข้าตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้ รถเก๋ง ยี้ห้อเชฟโรเลต รุ่น Optra สีเทา ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เจ้าหน้าที่จึงปิดกั้นการจราจร เพื่อให้รถดับเพลิงของ อบต.ยายแย้มวัฒนา ได้ฉีดน้ำสกัดเจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ แต่รถเก๋งเสียหายหมดทั้งคัน

จากการสอบถามนางลม อะพิเน อายุ 53 ปี ชาว ต.ยายแย้มวัฒนา คนเห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตนเองกลับจากงานศพ ขณะกำลังจะเข้าบ้านได้ยินเสียงดัง ตูม ตอนแรกนึกว่าหม้อแปลงไฟฟ้าระเบิด จึงเดินออกมาดูเห็นรถเก๋งคันดังกล่าวชนกับเสาไฟฟ้าส่องสว่างข้างทาง แล้วมีเปลวไฟกำลังโหมลุกไหม้รถเก๋งขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงรีบโทรแจ้งแจ้งหน้าที่

เจ้าหน้าที่สอบถามนายวิชัย อายุ 56 ปี ชาว ต.ตาจง อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ เจ้าของรถเก๋ง ซึ่งยังอยู่ในอาการคล้ายคนเมา เล่าด้วยเสียงอ้อแอ้ ว่าเพิ่งซื้อรถเก๋ง คันนี้มาเมื่อวานจากเพื่อนในราคา 40,000 บาท ช่วงบ่ายวันนี้ ตนเองได้ซื้อเหล้าขาวมาและได้ชวนเพื่อน 2 คน มาดื่มกินกันเพื่อเป็นการฉลองรถใหม่ที่บ้าน

ตกค่ำเพื่อนที่นั่งดื่มด้วยกันพากันแยกย้ายกลับบ้าน แต่ตนเองอยากจะไปดื่มฉลองรถคันใหม่ต่อในตัวอำเภอละหานทราย เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุรถเกิดเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าส่องสว่างข้างทาง ยอมรับตอนนั้นไม่รู้สึกตัว จากนั้น มีไฟลุกบริเวณห้องเครื่องจึงรีบออกจากตัวรถ ก่อนไฟจะลุกลามเข้าภายในห้องโดยสารอย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตาม เบื้องต้น ตำรวจนำตัวนายวิชัย มาเป่าหาปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย ที่ สภ.ถาวร พบว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์สูงถึง 202 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จึงแจ้งข้อหา ขับรถประมาททำให้ทรัพย์สินทางราชการเสียหาย และเมาแล้วขับ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวจังหวัดบุรีรัมย์ รายงาน