วันที่ 6 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณลานด้านหลังวัดพนมยงค์ หมู่ 4 ตำบลท่าวาสุกรี อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ชาวบ้านในชุมชนกว่า 100 คน ทั้งชาย หญิง ผู้สูงอายุ เยาวชนและเด็ก ได้ร่วมแรงกันกรอกกระสอบทรายเพื่อทำแนวบังเกอร์ป้องกันน้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่ชุมชน

ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงบ่าย ระดับน้ำในคูคลองรอบเมืองอยุธยาเริ่มเอ่อล้นเข้าท่วมบริเวณใกล้เคียง โดยเฉพาะพื้นที่ชุมชนที่อยู่ติดกับคลองเมือง ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ชาวบ้านต้องช่วยกันกั้นกระสอบทรายเพื่อป้องกันน้ำทะลักเข้าสู่พื้นที่ด้านใน ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำลักษณะคล้ายแอ่งกระทะ มีหลายครัวเรือนที่เสี่ยงได้รับผลกระทบ บางบ้านต้องเร่งขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงเพื่อความปลอดภัย

นางสาว สุกัญญา ประดับปิ่น อายุ 44 ปี ชาวบ้านในชุมชน เปิดเผยว่า ระดับน้ำเริ่มเข้าท่วมบริเวณพื้นวัดพนมยงค์ตั้งแต่เวลาประมาณ 15.00 น. ของวันเดียวกัน ตนและชาวบ้านจึงรีบออกมาช่วยกันกรอกกระสอบทราย เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำข้ามฝั่งเข้าท่วมชุมชนเวิ้งระกำ ซึ่งอยู่ด้านหลังวัดพนมยงค์และเป็นพื้นที่ต่ำ คาดว่าหากน้ำเอ่อล้นมากจะได้รับผลกระทบก่อนชุมชนอื่น โดยในพื้นที่มีครัวเรือนที่อาจได้รับผลกระทบกว่า 70 ถึง 80  ครัวเรือน

ด้าน พระวชิโรภาส รองเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เจ้าอาวาสวัดศาลาปูนวรวิหาร เปิดเผยว่า ได้ติดตามสถานการณ์จากกรมชลประทานอย่างใกล้ชิด หลังพบว่าน้ำเริ่มเอ่อล้นในพื้นที่ใกล้เคียงวัดศาลาปูน วัดพนมยงค์ และวัดพรหมนิวาส เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา อาตมาจึงประกาศเสียงตามสายขอความร่วมมือจากชาวบ้านให้ออกมาช่วยกันกรอกกระสอบทราย พร้อมประสานไปยัง ว่าที่ร้อยตรี ดร.สมทรง สรรพโกศลกุล นายกเทศมนตรีนครพระนครศรีอยุธยา เพื่อให้จัดส่งกำลังกองช่างนำทรายและถุงปุ๋ยมาสนับสนุนการทำแนวบังเกอร์ นอกจากนี้ อาตมายังได้นำเครื่องดื่มมาแจกให้กับชาวบ้านเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ

ขณะที่ พ.อ.อ.สุวัฒน์ สรรพโกศลกุล รองนายกเทศมนตรีนครพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจากนายกเทศมนตรีให้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์และให้ความช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่ชุมชนวัดพนมยงค์ ซึ่งได้รับผลกระทบจากน้ำเอ่อล้นในครั้งนี้ โดยเทศบาลได้นำทรายและกระสอบมาสนับสนุนให้ประชาชนทำแนวป้องกันน้ำท่วม พร้อมเปิดเผยว่าขณะนี้มีอีกกว่า 6 จุดในเขตเทศบาลที่ได้รับผลกระทบเช่นกัน และทางเทศบาลยังได้นำหินคลุก มาลงทำเป็นแนวกัน น้ำไม่ให้น้ำเข้าท่วม ภายในชุมชน

ทางเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยาได้ตั้ง ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ที่วัดศาลาปูน พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ประจำตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อคอยเฝ้าระวังและลงพื้นที่ทันทีหาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมชลประทาน แจ้งเตือนด่วน เขื่อนเจ้าพระยา แจ้ง จะปรับ เพิ่มการระบายน้ำจากเดิม 2,700  ลบ.ม./วินาที เป็นมากกว่า 2,700  ลบ.ม./วินาที

ผู้สื่อข่าวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รายงาน