ลูกชายโกรธจัด คว้าท่อนไม้ตีหัวแม่วัย 85 เจ็บสาหัส อ้างแม่ไม่ให้กินข้าว
ข่าวภูมิภาค

ลูกชายโกรธจัด คว้าท่อนไม้ตีหัวแม่วัย 85 เจ็บสาหัส อ้างแม่ไม่ให้กินข้าว

เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 17 ตุลาคม 2568 ศุนย์วิทยุร่มโพธิ์ทอง สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุลูกชายคุ้มคลั่งอาละวาดใช้ท่อนไม้ตีหัวแม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดที่ บ.โคกลาด ต.หนองไฮ อ.เมือง จ.อุดรธานี หลังรับแจ้งเหตุ พ.ต.ท.เปรม เตรียมตัว สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี สาขาย่อยห้วยหลวง พร้อมด้วย ร.ต.ท.เชษฐา คันธบุปผา รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี สาขาย่อยห้วยหลวง ตำรวจสายตรวจ 191 และกู้ชีพ อบต.หนองไฮ รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณหน้าบ้าน พบรอยเลือด 1 กอง ห่างไปประมาณ 30 เมตร ที่ข้างบ้านของเพื่อนบ้าน พบร่างคุณยาย อายุ 85 ปี ถูกตีด้วยของแข็งเป็นแผลฉกรรจ์ที่ขมับด้านซ้าย มีเลือดไหลนองเต็มใบหน้า นอนร้องด้วยความเจ็บปวด เจ้าหน้าที่กู้ชีพฯ ได้เร่งปฐมพยาบาล ก่อนจะนำตัวส่งรักษาที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี จากนั้นตำรวจได้เข้าไปที่บ้านเกิดเหตุอีกครั้ง โดยมีญาติและชาวบ้านยืนยันผู้ก่อเหตุ คือ นาย อ. อายุ 53 ปี ลูกชายของผู้บาดเจ็บ ซึ่งได้เข้าไปหลบอยู่ในบ้าน โดยยินยอมให้จับกุมตัวแต่โดยดี

จากนั้นตำรวจได้ทำการตรวจยึดท่อนไม้ไผ่ขนาดใหญ่ ประมาณ 80 ซม. ที่เปื้อนเลือด วางอยู่ข้างบ้าน ที่นาย อ. ใช้ทำร้ายผู้เป็นแม่ ระหว่างการควบคุมตัวอยู่ที่หลังรถกระบะตราโล่ เจ้าหน้าที่ได้พยายามสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่นาย อ.ให้การสับสนไปมา พูดจาไม่ค่อยรู้เรื่องอ้าง ว่าใช้ท่อนไม้ตีหัวแม่จริง เนื่องจากแม่ไม่ให้กินข้าวมาหลายวัน ตนหิวอยากกินข้าว สักพักญาติของผู้บาดเจ็บและผู้ต้องหา ทนกับคำให้การและพฤติกรรมของนายอุดรฯ ไม่ได้ จึงใช้ฝ่ามือซ้ายตบเข้าที่ศีรษะนายอุดรฯ เต็มแรง เพื่อระบายอารมณ์ ที่เขาทำร้ายแม่จนมีอาการสาหัส

เพื่อนบ้าน เล่าว่า ผู้บาดเจ็บยืนคุยกับเพื่อนบ้านอยู่ริมถนนหน้าบ้าน สักพักก็เดินเข้าไปในบ้าน จากนั้นก็ได้ยินเสียงร้องให้ช่วย เป็นเสียงที่คุณยายตกใจกลัวแต่เสียงแหบ เพราะผู้บาดเจ็บแก่แล้ว จังหวะที่ยายถูกตีตนไม่เห็น ยายวิ่งหนีมาทางบ้านตน แล้วมาล้มลงที่ข้างบ้าน ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุไม่เกิน 30 เมตร ตนไม่ค่อยเห็นลูกชายตีผู้บาดเจ็บ เพราะตนออกไปทำงานไม่ค่อยอยู่บ้าน แต่ชาวบ้านเองบอกว่าลูกชายนั้นทำร้ายตบตีแม่อยู่ประจำ ที่เขาอ้างว่าแม่ไม่ให้กินข้าวตนคิดว่าไม่จริง เพราะลูกคนอื่นๆของยาย จะเอาข้าวมาให้ที่บ้านเกือบทุกคาบทุกวันอยู่แล้ว

ด้านลูกชายยายและพี่ชาย เล่าว่า ตนแยกครอบครัวออกไปอยู่ที่นา มีชาวบ้านโทรไปบอกว่าน้องชายเอาไม้ตีหัวแม่บาดเจ็บ ตนก็รีบกลับมาที่บ้านทันที ตนรีบเข้าไปดูแม่ก่อน แม่ก็ร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด น้องชายก็หนีไปหลบในบ้าน บ้านนี้แม่อยู่กับน้องชายเพียง 2 คน เพราะแม่รักและห่วงน้องชายคนนี้มาก เมื่อ 20 ปีก่อน เขาทั้งเสพยาบ้า สูบกัญชา กินเหล้า จนมีอาการทางประสาท ตอนนี้เขาไม่เสพ ไม่กินเหล้าแล้ว คิดว่าที่เขาตีแม่ เพราะอาการทางจิต เขามักจะขอเงินแม่ไปซื้อเครื่องดื่มชูกำลัง เขาชอบใช้เงิน

น้องชายจะขอเงินแม่วันละ 100 – 200 บาท เมื่อขอไม่ได้ก็จะทำร้ายตบตีแม่อยู่ตลอด ทุกคนบอกให้แม่ออกมาอยู่กับลูกคนอื่นๆ แม่ก็ไม่ยอม แม่ยังเป็นห่วงน้องชายคนนี้มาก เพราะเขาป่วยและไม่มีใครแล้ว ส่วนเงินที่แม่เอาไปให้น้อง ก็เป็นเงินจากพวกตนและลูกคนอื่นๆ พวกตนก็ดูแลหาข้าวหาน้ำให้กินทุกวัน เป็นห่วงแม่แต่แม่ก็ยังห่วงน้องคนนี้ เอาตัวไปรักษามาหลายครั้ง ทั้งโรงพยาบาลที่ จ.ขอนแก่น และ จ.เลย เอาตัวไปรักษาได้ไม่นาน หมอก็จะโทรมาหาให้ไปรับกลับมา เพราะมีเรื่องทำร้ายคนไข้คนอื่นอยู่ตลอด ไม่รู้ว่าจะทำยังไงแล้ว เอากลับมาก็รักษากันไปตามมีตามเกิด

เบื้องต้นตำรวจได้ควบคุมตัวนายอุดรฯ ไปทำการสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก ซึ่งจะทำการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด หลังจากนั้นหากยังมีอาการคุ้มคลั่งอีก ก็จะส่งตัวไปทำการรักษาที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี ส่วนทางด้านผู้บาดเจ็บ หากประสงค์จะดำเนินคดี ตำรวจได้แนะนำให้ญาตินำใบรับรองแพทย์ มาทำการแจ้งความดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป