เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ติดกับเขตป่าชุมชน ต.ระบำ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี หลังเจ้าหน้าที่อนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งได้รับแจ้งเหตุ ว่ามีชาวบ้านหาเห็ดโคนในป่า ไม่กลับออกมาจากป่า ตั้งตั้งวันที่ 25 กันยายน คาดว่า น่าจะหลงป่า ติดอยู่ข้างใน หาทางออกไม่ได้ จึงได้ประสานงานไปยังจนท.สถานีควบคุมไฟป่าห้วยขาแข้ง เจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าห้วยทับเสลา-ห้วยระบำ พร้อมนายอนุพันธ์ สารสุวรรณ์ กำนันต.ระบำพร้อมผู้นำชุมชนในพื้นที่ กู้ภัยอุทัยธานีจุดลานสัก สมาคมกู้ชีพกู้ภัยอำเภอบ้านไร่ สมาคมกู้ภัยกำนันปี๊ด นครสวรรค์ มูลนิธิกู้ภัยเสมอกันสุพรรณบุรี จนท.ฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอบจ. อุทัยธานี
ปูพรมระดมค้นหาภายในป่าและทางน้ำ ตั้งแต่วันแรก ซึ่งเป็นดงช้าง และเสือ และสัตว์อื่นๆ ที่เป็นอันตราย ล่าสุด จนท.ไปพบเจอตัวคนหายวันที่ 1 ตุลาคม 2568 ได้พบพิกัดว่า เดินผ่านหน้ากล้องดักสัตว์ของจนท.จับพิกัดไว้ได้ แถวบริเวณหลังกระทะแตก เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จนท.จึงนำกำลังไปรับตัวได้อย่างปลอดภัย ในสภาพอิดโรยอ่อนแรง มีแผลกดทับที่บริเวณก้น และหลังน่องขาบน สภาพอาการค่อนข้างป่วย เริ่มพูดจาเบลออ่อนแรง เจ้าหน้าที่จึงได้เร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลลานสัก รักษาอาการเร่งด่วน
ทราบชื่อคนหายคือ นายดนัย ทองบุญณะ อายุ 46 ปี ชาวบ้านไผ่งาม ต.ระบำ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ระหว่างนำตัวส่งรพ.ได้สอบถามกับนายดนัย เปิดเผยว่า ตนเองเข้ามาหาเห็ดโคนในป่า อ้างว่าไม่ได้หลงป่า แต่ตั้งใจเดินหันหน้าออกทางทิศตะวันออกจนกว่าจะเจอทางออก และระหว่างติดอยู่ในป่า ได้เดินสวนทางกับช้างป่า วินาทีนั้นตนเองไม่กลัวแล้ว แต่โชคดีช้างป่าไม่ทำร้ายตนเอง และที่อยู่ได้หลายวัน เพราะกินแต่น้ำตามทาง เพื่อประทังชีวิต ก่อนที่จนท.มาพบเจอตัว
จากการสอบถาม นางสาวลลิตา อายุ 26 ปี ลูกสาวคนหาย เผยว่า พ่อได้ขอตังตนเองมา 50 บาท ไปเติมน้ำมันรถ เพื่อจะไปหาเห็ดโคนในป่า เพื่อหารายได้เสริม พร้อมกับห่อข้าวมากินด้วย โดยออกไปตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย. 68 และที่ผ่านมา ตนเองก็ไม่เห็นพ่อกลับมาเสียที และติดต่อพ่อไม่ได้ จึงคิดว่าพ่อน่าจะหาเห็ดโคนในป่าแล้วเกิดพลัดหลง หาทางกลับไม่ได้ จึงได้ประสานงานไปยังจนท.ให้ติดตามหาตัวพ่อมาได้อย่างปลอดภัย
ผู้สื่อข่าวจังหวัดอุทัยธานี รายงาน