ผู้ว่าฯ ชัชชาติ เผยความคืบหน้า กรณีถนนสามเสนทรุดตัว หน้า รพ.วชิรฯ
ข่าวภูมิภาค

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ เผยความคืบหน้า กรณีถนนสามเสนทรุดตัว หน้า รพ.วชิรฯ

วันนี้ (25 ก.ย. 68) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้ากรณีถนนสามเสนทรุด หน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาล ว่า ขณะนี้ทาง รฟม. และ ผู้รับเหมากำลังอุดจุดที่รั่ว โดยมีตัวชาร์ป อันเก่าที่ไม่ได้เกี่ยวกับโครงการนี้พังร่วงลงมาประมาณ 5 ชิ้น ซึ่งจำเป็นต้องยกออก และตอนนี้มีการใช้เครน 150 ตันมาวาง แต่ต้องไปเสริมความแข็งแรงของตัวสถานีก่อน ต้องไปค้ำยันในจุดที่ขาเครนจะวาง เพื่อเสริมความแข็งแรง โดยแผ่นปูนหนัก 34 ตัน เนื่องจากมีอุปสรรคในการเกี่ยวกับวัตถุหลายอย่างในหลุม จึงดึงออกมาไม่ได้ แต่ถ้านำแผ่นปูนออกมาได้ จะทำให้เราสามารถอุดรอยรั่วในอุโมงค์ได้ ซึ่งเป็นแผนที่ รฟม. ดำเนินการ

ส่วน กทม. ต้องรับผิดชอบเรื่องสาธารณูปโภคน้ำไฟชาวบ้าน และมีบางจุดที่น้ำไหลอ่อน มีการกระจายถังหลายจุด ซึ่งคาดว่าช่วงเที่ยงวันนี้ จะสามารถใช้น้ำได้ตามปกติทุกพื้นที่ ขณะที่การดูแลผู้ป่วยติดเตียงในพื้นที่ 10 คน เราก็เข้าไปดูแลเรียบร้อยทั้งหมด

ส่วนเรื่องการจราจร มีการเปิดถนนให้ใช้ถนนสุโขทัย แต่ยังไม่อยากให้รถบรรทุกหนักเข้ามา และถนนสามเสน คงต้องปิดยาว และสถานการณ์ทั่วไปก็ยังคงที่

ตัวเครนที่นำมาใช้ แม้จะมีกำลังสูง แต่เมื่อมาใช้ยกแผ่นปูน 50 ตัน จะเจออุปสรรคเรื่องดิน และวัตถุอื่นที่อยู่ในหลุม มันจะเกี่ยวกัน ไม่สามารถดึงขึ้นมาได้ทันที ซึ่งต้องเน้นเรื่องความปลอดภัย และขณะนี้อยู่ระหว่างการประเมิน

เมื่อถามว่าหากมีการยกแผ่นปูน จะกระทบกับโครงสร้างของสถานีตำรวจนครบาลสามเสนหรือไม่นายชัชชาติ ระบุว่า เป็นสิ่งที่ต้องระวัง แต่ที่ต้องคำนึงตอนนี้คือกำลังเครน ระวังเรื่องน้ำหนักโดยรวมทั้งหมด เพราะทุกอย่างปฏิบัติอยู่เหนือสถานี แม้ว่าสถานีจะออกแบบมารับน้ำหนักในระกับหนึ่ง ซึ่งทางเรามีการใช้อุปกรณ์ค้ำยัน เพื่อไม่ให้กระทบกับโครงสร้าง ขอให้ทุกคนใจเย็น ๆ ให้คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก

เมื่อถามว่าขณะนี้ยังมีดินสไลด์อยู่หรือไม่ นายชัชชาติ ระบุว่า ตอนนี้จากที่ประเมินค่อนข้างคงที่ มีการประสานขอปิดน้ำประปาที่ไหลลงมา ลดการสไลด์ของดิน แต่สิ่งที่ต้องกังวลคือเรื่องน้ำฝน เพราะมีท่อระบายน้ำอยู่ใต้ถนนเชื่อมต่อกัน ทำให้เมื่อถนนทรุด ท่อระบายน้ำจะขาดช่วง หากเกิดฝนตกมา จะทำให้น้ำไหลมารวมกันในหลุม จึงสั่งการให้นำกระสอบมาอุดท่อโดยรอบทั้ง 4 ด้าน ปละทำกระสอบทราบเป็นลังเกอร์รอบปากหลุม เพื่อบล็อกไม่ให้น้ำไหลมา และจะมีเฉพาะน้ำฝนด้านเดียว และจะได้ลดปริมาณฝนสะสมในหลุม

เมื่อถามถึงเรื่องกระแสข่าวถุงทรายมากลบปากท่อ นายชัชชาติ ระบุว่า เป็นแนวทางที่หลายส่วนมองตรงกัน และทุกคนก็มีประสบการณ์ เป็นสิ่งที่ต้องทำอย่างแรกคืออุดรูรั่ว เพื่อไม่ให้ดินไหลต่อได้ เมื่อไปเทียบกับญี่ปุ่น ยังมีข้อแตกต่างกันอยู่ เพราะโครงการนี้เป็นอุโมงค์ที่ต้องใช้ต่อ จะเทคอนกรีตลงไปเลยไม่ได้ มันจะไหลไปกระทบจุดอื่น ส่งผลให้วุ่นวายมากขึ้น และกระสอบทราย ถือเป็นตัวเลือกที่ดี คล่องตัว และรวดเร็ว และเหมาะกับสถานการณ์นี้มากที่สุดแล้ว และคิดว่าทางทีมงานมาถูกทาง

เมื่อถามถึงมีกระแสข่าวว่า เมื่อวานส่งคนไปกู้รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย นายชัชชาติ บอกว่า เราต้องเอารถขึ้นมา เพื่อป้องกันการกีดขวางการไหลของน้ำ จะทำให้ไม่สามารถอุดรูรั่วได้ ยืนยันว่า ความปลอดภัยเป็นที่หนึ่ง

ส่วนที่มีน้ำรั่วบริเวณหน้าบริษัทบุญรอดฯ นายชัชชาติ กล่าวว่า ได้รับทราบข้อมูลแล้ว และส่งเจ้าหน้าที่ไปดูแล้ว เข้าใจว่าพื้นที่ตรงนั้น มีโครงการที่ทำเรื่องประปาอยู่เหมือนกัน ซึ่งก็ต้องเฝ้าระวัง และส่งไปตรวจสอบที่สถานีแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะสามารถลงไปดูได้

นอกจากนี้ ทางผู้ว่าฯ กทม. ได้เซ็นอนุมัติให้พื้นที่โดยรอบเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ เพื่อที่จะดำเนินการเยียวยาช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ

เมื่อถามว่าหนักใจหรือไม่ เกิดเหตุการณ์แบบนี้ในช่วงใกล้จะหมดวาระ นายชัชชาติ ระบุว่า มันเป็นหน้าที่ของเราอยู่แล้วไม่มีปัญหา และต้องขอบคุณผู้ที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมด แสดงให้เห็นถึงความเข้มแข็งของคนไทย ผมว่าเป็นบททดสอบให้เห็นความเข้มแข็งของเมือง เมืองต้องสามารถกลับมาได้ กรณีมีเหตุฉุกเฉิน และเราจะไม่ยอมแพ้

ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง