จากกรณี เมื่อวันที่ 15 ก.ย. ที่ผ่านมา นายวิชัย วงศ์สินสังวร หรือ นายเอี่ยม บางแค พร้อมนายอำพร ลาลี ที่ปรึกษาวัดแห่งหนึ่งใน จ.ศรีสะเกษ พาชาวบ้าน ต.สร้างปี่ อ.ราษีไศล กว่า10 ราย รวมตัวกันยื่นหนังสือร้องเรียนต่อตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อขอให้ตรวจสอบพฤติกรรมของเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งใน อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ หลังจากพบว่ามีการใช้เงินวัดอย่างไม่โปร่งใสและผิดวัตถุประสงค์มานานหลายปี อีกทั้งยังตั้งคณะกรรมการวัดมากถึง 47 คน ทั้งที่มีพระจำพรรษาเพียง 6 รูป ตามที่นำเสนอไปแล้วนั้น
ต่อมา ทางเจ้าอาวาสวัดได้ชี้แจงผ่านสื่อว่า พร้อมให้ตรวจสอบการเงินทั้งหมด รวมถึงชี้แจงว่าการแต่งตั้งคณะกรรมการวัดถึง 47 คนนั้น จะเป็นการประชุมและแต่งตั้งกันเอง ไม่ได้มีการเซ็นรับรองจากตน พร้อมยืนยันว่าพร้อมให้ตรวจสอบทุกเรื่อง
โดยความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 17 ก.ย. นายวิชัย วงศ์สินสังวร หรือ นายเอี่ยม บางแค เผยว่า ภายหลังจากที่ตนและชาวบ้านไปร้องเรียนให้กองปราบตรวจสอบเจ้าอาวาสวัดดังกล่าว ต่อมาเจ้าอาวาสให้สัมภาษณ์ณ์ผ่านสื่อว่า พร้อมให้ตรวจสอบนั้น ตนอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่นเจ้าคณะตำบล หรือ เจ้าคณะอำเภอ มีคำสั่งให้เจ้าอาวาสให้หยุดพักจากตำแหน่งเจ้าอาวาสไปก่อน เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบจนแล้วเสร็จ
แล้วหากตรวจสอบจนแล้วเสร็จ และพบว่าไม่มีความผิด ก็ให้กลับมารับตำแหน่งเหมือนเดิมได้ แต่หากไม่มีการสั่งให้พักจากตำแหน่งอาจมีการไปทำลายหลักฐานได้ เปรียบเหมือนเจ้าหน้าที่หน่วยงานอื่นๆ หากโดนร้องเรียนก็ให้หยุดพักราชการชั่วคราวจนกว่าการตรวจสอบจะเสร็จสิ้น ส่วนกรณีเจ้าอาวาสนั้นเปรียบเหมือนเจ้าหน้าที่ของรัฐ จึงควรมีคำสั่งในลักษณะเดียวกัน
ส่วนเรื่องที่ เจ้าอาวาสให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อว่า ชาวบ้านเป็นคนตั้งคณะกรรมการวัดขึ้นมาเองทั้ง 47 คน เจ้าอาวาสไม่ได้เป็นผู้อนุมัติ นายเอี่ยม เผยว่า เจ้าอาวาสเป็นผู้แต่งตั้งขึ้นมาเองทั้งหมด ซึ่งมีหนังสืออยู่ที่ สํานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติด้วย
นายเอี่ยม บางแค ยังเผยอีกว่า ก่อนหน้าที่ตนและชาวบ้าน จะไปที่กองปราบ พวกตนเคยไปร้องเรียนเรื่องความไม่โปร่งใสที่เจ้าคณะในพื้นที่ รวมไปถึง สํานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ แล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่รับเรื่องเอาไว้ แต่ผ่านมานานเรื่องก็ยังเงียบอยู่
ทั้งนี้นายเอี่ยม บางแค กล่าวว่า หากมีการตรวจสอบแล้ว เจ้าอาวาสบริสุทธิ์ แล้วจะฟ้องกลับ ทางตนก็ยินดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม จึงวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการเพราะเรื่องราวดังกล่าวมีมานานตั้งแต่ปี57 จนมาถึงปัจจุบัน