วันที่ 4 กันยายน 2568 สถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาด้าน จ.สระแก้ว ทวีความตึงเครียดขึ้น เมื่อมีรายงานว่า กำนันผู้มีอิทธิพลชาวกัมพูชาและกำลังทหารได้ร่วมกันเกณฑ์ชาวบ้าน, วัยรุ่น, และกลุ่มพระสงฆ์-สามเณร เข้ามายังแนวชายแดนเพื่อใช้เป็น โล่มนุษย์ กดดันเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย
แหล่งข่าวความมั่นคงระบุว่า การเคลื่อนไหวดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อบีบให้เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจควบคุมฝูงชนของไทยต้องลดการตรึงกำลังในพื้นที่พิพาท แต่ฝ่ายไทยยังคงรักษาความสงบ ไม่มีการตอบโต้ และเน้นใช้มาตรการทางการทูตควบคู่ไปกับการเฝ้าระวังพื้นที่อย่างเข้มงวด
ในขณะเดียวกัน กองบัญชาการกองทัพไทยโดยหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (นทพ.) ได้รายงานสถานการณ์ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และยืนยันให้ทุกหน่วยคงมาตรการเฝ้าระวังในระดับสูงสุด พร้อมทั้งเดินหน้าตามแผนพัฒนาแนวชายแดน โดยได้มีการเตรียมพื้นที่สำหรับการก่อสร้าง รั้วถาวรและเส้นทางลูกรัง ใน อ.อรัญประเทศ และ อ.โคกสูง จ.สระแก้ว
ต่อมาเมื่อเวลา 14.00 น. พลโท ธีรพงศ์ ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา รองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (ฝ่ายพัฒนา) พร้อมคณะ ได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อตรวจความพร้อมของกำลังพลด้วยตัวเอง
ล่าสุดเมื่อเวลา 14.42 น. มีรายงานว่า ฝ่ายกัมพูชาได้เสริมกำลังพลและมวลชนเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 300 คน โดยรวมตัวกันใกล้กับหลักเขตที่ 46 ห่างจากเส้นเขตแดนไทยเพียง 10-15 เมตร แม้ว่าการนำพระสงฆ์เข้ามาเกี่ยวข้องจะถูกมองว่าเป็นการยั่วยุ แต่สถานการณ์โดยรวมยังคงอยู่ในระดับความตึงเครียดเท่านั้น ยังไม่มีการปะทะ หรือเหตุรุนแรงเกิดขึ้นแต่อย่างใด
เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยยืนยันว่าจะยังคงใช้มาตรการที่เน้นความสงบเพื่อควบคุมสถานการณ์ พร้อมทั้งเดินหน้าแผนพัฒนาพื้นที่ชายแดน เพื่อยกระดับความมั่นคงและความปลอดภัยของประชาชนต่อไป