วันที่ 27 ธันวาคม 2568 ที่การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) นัดพิเศษ ครั้งที่ 3 ได้มีการลงนามในแถลงการณ์ร่วมเกี่ยวกับมาตรการลดความตึงเครียดและการหยุดยิงทันที
ก. มาตรการลดระดับความตึงเครียด (De-escalation Measures)
1. ทั้งสองฝ่ายตกลงหยุดยิงทันทีหลังจากลงนามในแถลงการณ์ โดยมีผลตั้งแต่เวลา 12.00 น. ของวันที่ 27 ธันวาคม 2568 ครอบคลุมอาวุธทุกประเภท รวมถึงการโจมตีพลเรือน วัตถุทางพลเรือน โครงสร้างพื้นฐาน และเป้าหมายทางทหาร หลีกเลี่ยงการยิงโดยไม่มีเหตุยั่วยุ การรุกคืบ หรือการเคลื่อนย้ายกองกำลังไปยังอีกฝ่าย และข้อตกลงนี้จะต้องไม่ถูกละเมิด
2. ทั้งสองฝ่ายตกลงคงกำลังทหารในปัจจุบันโดยไม่มีการเคลื่อนย้ายเพิ่มเติม รวมถึงการลาดตระเวนไปยังที่ตั้งของอีกฝ่าย
3. การดำเนินการทั้งหมดภายใต้แถลงการณ์จะไม่กระทบต่อการจัดทำหลักเขตแดนและเส้นเขตแดนระหว่างประเทศ ทั้งสองฝ่ายจะส่งเรื่องให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) กลับมาเริ่มงานสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนโดยเร็วที่สุด พร้อมรับรองความปลอดภัยของชุดสำรวจและประชาชนในพื้นที่
4. ทั้งสองฝ่ายจะอนุญาตให้พลเรือนในพื้นที่ชายแดนที่ได้รับผลกระทบสามารถกลับไปดำเนินชีวิตตามปกติในฝั่งของตนได้อย่างปลอดภัย
5. ทั้งสองฝ่ายจะไม่เสริมกำลังตลอดแนวชายแดน เพื่อหลีกเลี่ยงการเพิ่มระดับความตึงเครียด
6. ทั้งสองฝ่ายจะไม่ดำเนินการยั่วยุใด ๆ ที่อาจเพิ่มความตึงเครียด รวมถึงการก่อสร้างหรือเสริมความแข็งแกร่งให้แก่โครงสร้างทางทหารของอีกฝ่าย
7. ทั้งสองฝ่ายจะไม่ใช้กำลังต่อพลเรือนหรือวัตถุทางพลเรือน ซึ่งถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ
8. ทั้งสองฝ่ายจะหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลเท็จหรือข่าวลวง เพื่อลดความตึงเครียดและส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเจรจาสันติ
9. ทั้งสองฝ่ายยืนยันพันธกรณีตามอนุสัญญาออตตาวาเกี่ยวกับทุ่นระเบิด และจะทำงานร่วมผ่านคณะทำงานร่วมประสานงาน (JCTF) เพื่อให้เกิดความคืบหน้าในการเก็บกู้วัตถุระเบิด 10. ทั้งสองฝ่ายยืนยันความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ รวมถึงการหลอกลวงทางไซเบอร์และการค้ามนุษย์ ระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติกัมพูชาและไทย เพื่อสร้างความไว้วางใจและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน
11. ตามปฏิญญาร่วมกัวลาลัมเปอร์ เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2568 ทหารกัมพูชาจำนวน 18 นาย จะถูกส่งตัวกลับกัมพูชา หลังจากรักษาสถานะหยุดยิงครบ 72 ชั่วโมง
ข. กลไกสำหรับการดำเนินงานและตรวจสอบมาตรการลดความตึงเครียด
12. ทั้งสองฝ่ายตระหนักถึงบทบาทสำคัญของคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT) และตกลงเสริมบทบาทของ AOT ในการตรวจสอบและรับรองการปฏิบัติตามมาตรการอย่างมีประสิทธิภาพ
13. ทั้งสองฝ่ายจะใช้หน่วยประสานงานชายแดนกัมพูชา-ไทย และ ไทย-กัมพูชา เพื่อให้การหยุดยิงยั่งยืน จัดการสถานการณ์ในพื้นที่ และป้องกันความเข้าใจผิด ภายใต้การสังเกตการณ์ของ AOT
14. ทั้งสองฝ่ายจะรักษาช่องทางสื่อสารโดยตรงระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและผู้บัญชาการทหารสูงสุด เพื่อรับมือเหตุการณ์เร่งด่วน หากจำเป็น ผู้แทนระดับสูงจะประชุมหารือเพื่อแก้ไขปัญหาในพื้นที่
15. คณะทำงานร่วมประสานงาน (JCTF) จะแจ้งให้หน่วยงานท้องถิ่นทั้งสองฝ่ายทราบ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเก็บกู้วัตถุระเบิดในพื้นที่ชายแดนเร่งด่วนตามแผนปฏิบัติการ
16. ทีมสื่อมวลชนอย่างเป็นทางการจากทั้งสองฝ่ายจะสื่อสารโดยตรงและสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันและจัดการกับข้อมูลบิดเบือน และรับรองความโปร่งใสและถูกต้องของข่าวสาร เพื่อเสริมสร้างความไว้วางใจระหว่างกัน


