สิ้นชื่อเสียแล้ว  เคเคพาร์ก-ชเวก๊กโก ไทย-จีน-เมียนมา จับมือ ทำลายตึกบัญชาการแก๊งสแกมเมอร์ ราบเป็นหน้ากลอง
ข่าวการเมือง

สิ้นชื่อเสียแล้ว เคเคพาร์ก-ชเวก๊กโก ไทย-จีน-เมียนมา จับมือ ทำลายตึกบัญชาการแก๊งสแกมเมอร์ ราบเป็นหน้ากลอง

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยศูนย์ต่อต้านการฉ้อโกงออนไลน์ (ACSC) พร้อมด้วยนายหลิวจงอี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ สาธารณรัฐประชาชนจีนและคณะ ได้ลงพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อผนึกกำลังกับทางการเมียนมา ในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติครั้งใหญ่ที่สุด

การทลายรังสแกมเมอร์ตึกหรูสู่ซากปรักหักพัง จุดสำคัญของความร่วมมือในครั้งนี้ คือการที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของเมียนมาได้นำคณะทำงานของไทยและจีน เข้าตรวจสอบพื้นที่เป้าหมายหลัก 2 แห่ง ได้แก่ KK Park และชเวก๊กโก ฐานบัญชาการใหญ่ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่หลอกลวงคนทั่วโลก

จากการลงพื้นที่พบว่า อาคารตึกสูงและสำนักงานที่เคยเป็นแหล่งกบดานของเหล่าสแกมเมอร์ ได้ถูกทำลายทิ้งอย่างถาวร สภาพปัจจุบันเหลือเพียงความว่างเปล่าและซากอาคาร ยืนยันให้เห็นถึงความร่วมมือตัดรากถอนโคน ไม่ให้เหลือสถานที่สำหรับตั้งฐานปฏิบัติการหลอกลวงประชาชนได้อีกต่อไป

ต่อมา ณ ห้องประชุมสะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 ฝั่งเมียนมา ได้มีการประชุมไตรภาคีร่วมกันระหว่าง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศปอส.ตร. และคณะ (ผู้แทนประเทศไทย) , พล.ต.ต.มิน ไทก์ เมียว รองผู้บัญชาการตำรวจเมียนมา และนายหลิวจงอี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยได้ข้อสรุปมาตรการขั้นเด็ดขาด

ซึ่งประเทศไทย จะใช้กลไกของศูนย์ต่อต้านการฉ้อโกงออนไลน์ เป็นศูนย์กลางในการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน นอกจากนี้ยังมีการเสนอตั้งคณะทำงานร่วม เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล พยานหลักฐานเพื่อขยายผลเครือข่ายร่วมกัน ภายใน 24 ชั่วโมง โดยเน้นย้ำหลักการ อาชญากรรมไร้พรมแดน การปราบปรามต้องไร้พรมแดน จะต้องร่วมมือแบบไร้ข้อจำกัดและรวดเร็ว โดยจะยังคงนโยบายประสานงานร่วมกันในการตัดวงจรปัจจัยพื้นฐาน เช่น ไฟฟ้า สัญญาณอินเทอร์เน็ตของกลุ่มอาชญากรในพื้นที่ชายแดนอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ยังตกลงกันที่จะให้ความร่วมมือด้านการอำนวยความสะดวก และลดขั้นตอนเรื่องการส่งตัวกลุ่มชาวต่างชาติที่หลบหนีออกจากเมียนมากลับประเทศ เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว ลดภาระเจ้าหน้าที่ฝั่งไทย และเพื่อความปลอดภัยของชาวต่างชาติและเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย

ผลพวงจากการทุบทำลายตึกและฐานที่มั่น ทำให้กลุ่มสแกมเมอร์ชาวจีนจำนวนมากที่พยายามหลบหนีออกจากพื้นที่ KK Park และชเวก๊กโก ถูกเจ้าหน้าที่เมียนมาจับกุมตัวได้ในที่สุด