เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 15 ธ.ค.68 ที่ศูนย์แถลงข่าวร่วม นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงกรณีที่ที่มีการเผยแพร่ในสื่อโซเชียลออนไลน์ เรื่องการปิดกั้นน่านน้ำ สกัดการส่งออกน้ำมัน-ยุทธปัจจัย ไปยังกัมพูชาว่า ประเทศไทยไม่ต้องการยกระดับสถานการณ์ การดำเนินการของไทยเพื่อปกป้องอธิปไตยและลดภัยคุกคามเท่านั้น
พร้อมย้ำว่าประเทศไทยปฏิบัติตามหลักมนุษยธรรม และกฎหมายระหว่างประเทศ คือ อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ.1982 (UNCLOS) ที่ให้ความสำคัญอันดับต้นๆ กับการรักษาเสรีภาพในการเดินเรือ (Freedom of Nevigation) ไม่ประสงค์ให้ส่งผลต่อการค้า การคมนาคม หรือห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งไทยยึดหลักนี้เคร่งครัด เพื่อสื่อสารต่อประเทศที่สาม และประชาคมต่างประเทศ
ขณะที่ พล.ร.ต.ปารัช รัตนไชยพันธ์ โฆษกกองทัพเรือ (ทร.) กล่าวยืนยันว่า ไม่มีการบล็อกเขต ไม่มีปิดน่านน้ำไทย ทางกองทัพเรือไม่มีเจตนาเรื่องนี้ เราเคารพเจตนาระหว่างประเทศและประชาคมโลก เพื่อตัดการส่งกำลังบำรุง-ยุทธปัจจัย ไปสู่กัมพูชาเท่านั้น
เมื่อถามถึงกรณีมีกระแสข่าวพบเรือบรรทุกน้ำมัน-สินค้า 2 ลำ ของไทย ชื่อ นาคราช 26 และ ไทยแหลมทอง ที่อยู่ใกล้พื้นที่ จ.เกาะกง ได้รับรายงานต้นทางและปลายทาง อย่างไร โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า เราพยายามจะแก้ไขปัญหา มีหลายบริษัทเดินเรือของไทย ที่ใช้เรือไทยในการลำเลียงน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าไปในพื้นที่กัมพูชา ที่ผ่านมา ทร. พยายามพูดคุยกับบริษัทเจ้าของเรือนั้นๆ ในเรื่องการขอความร่วมมือไม่ลำเลียงยุทธปัจจัยเข้าไปในกัมพูชา เรื่องนี้จะมีการพิจารณาใน สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) อีกครั้ง
ส่วนพื้นที่ จ.ตราด ยังคงมาตรการเคอร์ฟิว แต่จะใช้ให้สั้นที่สุด เพื่อลดความเดือดร้อนประชาชนและเพื่อความปลอดภัยของประชาชน ซึ่งยังพบกลุ่มคนไม่หวังดีเข้ามาในพื้นที่ จ.ตราด ส่วนประชาชนที่จำเป็นต้องเดินทางสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ประสานจุดตรวจต่างๆ ได้
เมื่อถามถึงกรณีที่ตั้งหน่วยทหาร หลังบก.ฉก.นย.ตราด โดนโจมตี จะมีมาตรการดูแลหน่วยทหารอย่างไร โฆษก ทร. กล่าวว่า มีการตรวจตราสถานที่ราชการ-สถานที่สำคัญในพื้นที่ โดยประสานหน่วยความมั่นคงในพื้นที่สอดส่องดูแล ใช้มาตรการหาข่าวและข่าวกรองต่างๆ ร่วมกับตำรวจและฝ่ายปกครอง