ศูนย์แถลงข่าวร่วม สถานการณ์ไทย-กัมพูชา รายงานสถานการณ์ ว่า ทหารกัมพูชายังระดมอาวุธหนักยิงเข้ามาฝ่ายไทยและฝ่ายไทยมีความจําเป็นที่จะต้องตอบโต้ตามกฎการปะทะและกฎหลักสากล
ประเทศไทยไม่ได้ปฏิเสธการเจรจา หรือ ด้านการทูต แต่เนื่องจากการดําเนินการในช่วงที่ผ่านมาไม่สามารถเจรจาได้เนื่องจากฝ่ายกัมพูชาไม่พร้อมที่จะเจรจา และยังมีความเป็นภัยคุกคาม
ภาพรวมการปฏิบัติการ ควบคุมพื้นที่ไว้แล้วยังไม่เปลี่ยนแปลงได้ขยายผลในที่หมาย ในส่วนที่สําคัญ ปราสาทคนา จังหวัดสุรินทร์ ควบคุมเบ็ดเสร็จเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งจากการตรวจสอบพบกําแพงโบราณสถาน และมีภาพการขุดคูเลตที่ใช้ในการรบ ซึ่งบ่งชี้ได้ว่ากัมพูชาเข้ามายึดพื้นที่ดินแดนไทยในบริเวณที่เป็นโบราณสถานซึ่งผิดหลักสากล เพื่อใช้เป็นที่ตั้งทางทหาร
กองทัพบก ยังคงดํารงความมุ่งหมายการปฏิบัติการ 2 ประการ คือ
1.สถาปนาแนวชายแดนที่ถูกรุกล้ากลับคืนมาให้ได้
2.ทําลายขีดความสามารถทางทหารของกัมพูชาที่ชัดเจนแล้วว่าเข้าโจมตีและเป็นภัยคุกคามทั้งต่อกําลังทหารและประชาชนชาวไทยให้หมดสิ้นสภาพทั้ง กําลังพลยุทโธปกรณ์ ที่ตั้งทางทหาร และสิ่งสนับสนุนต่าง ๆ
เปิดความเสียหายกัมพูชา
ฐานที่มั่นที่ตั้งทางทหาร 51 แห่ง
BM-21 1 ระบบ
รถถัง 10 คัน
รถเกราะ-ยานเกราะ 9 คัน
ปตอ. 4 ระบบ
ปืนใหญ่ปืน ค. 7 กระบอก
แอนตี้โดรน 5 จุด
โดรน 68 ลำ
เสาสื่อสาร
3 จุด
ทหารกัมพูชาเสียชีวิตประมาณ 221 นาย
เรียบเรียง สยามนิวส์