 
                            เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2568 นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เรื่อง MOU แรร์เอิร์ธ ระหว่างไทยและสหรัฐอเมริกา โดยระบุว่า สิ่งที่สถานทูตอเมริกาไม่พูดเรื่องแร่หายาก
ก่อนหน้านี้เพจของสถานทูตอเมริกา ได้ชี้แจงเกี่ยวกับ MOU เรื่องแร่หายาก ว่าเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือด้านห่วงโซ่อุปทานแร่สำคัญ ส่งเสริมการลงทุนเพื่อขับเคลื่อนการสร้างมูลค่าเพิ่มภายในประเทศและอุตสาหกรรมการแปรรูปของไทย โดย MOU นี้ไม่ได้มุ่งหมายให้มีผลผูกพันตามกฎหมายระหว่างประเทศ
นพ.วรงค์ แสดงความคิดเห็นว่า สถานทูตอเมริกาอาจเน้นนำเสนอเฉพาะเรื่องที่เห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย แต่ไม่ได้กล่าวถึงประเด็นปัญหาที่ควรกังวล โดยระบุข้อกังวลของคนไทยดังนี้
1. แม้ MOU นี้จะไม่มีผลผูกพันตามกฎหมายระหว่างประเทศ แต่ก็มีผลในทางปฏิบัติ เพราะทั้งสองฝ่ายสมยอมกัน โดยสามารถยกเลิกได้ทุกเมื่อ แต่หากยกเลิก MOU สิ่งที่ได้ตกลงทำมาก่อนหน้านี้จะไม่สามารถยกเลิกได้ แม้จะสร้างความเสียหายต่อประเทศไทย ซึ่งเป็นเรื่องอันตราย
2. ใน MOU มีสัญญาณการล็อคสเปค เพราะจะมีการจัดตั้งตลาดที่มีมาตรฐานสูง และผู้ที่ปฏิบัติตามมาตรฐานจะได้รับสิทธิพิเศษในการซื้อขาย โดยที่สหรัฐอเมริกามีประสบการณ์และสามารถกำหนดมาตรฐานได้ จึงมีโอกาสเกิดการล็อคสเปคและได้เปรียบในการซื้อขาย
3. มีประเด็นปลีกย่อย เช่น การให้โอกาสลงทุนก่อน ได้ข้อมูลการประมูลก่อนใคร การอำนวยความสะดวกในทุกขั้นตอนตั้งแต่รัฐบาลกลางจนถึงท้องถิ่น การคำนึงถึงความมั่นคง (น่าจะหมายถึงความมั่นคงของสหรัฐฯ) และไม่มีการระบุวงเงินที่จะต้องนำมาลงทุน
4. ฝ่ายอเมริกาไม่พูดถึงการมีส่วนร่วมของไทยในการดูแลผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การทำเหมืองแร่นั้นมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมสูง โดยเฉพาะแร่ที่เกี่ยวข้องกับกัมมันตภาพรังสี
5. นพ.วรงค์ ตั้งคำถามต่อรัฐบาลไทยว่า ทำไมถึงลงนามสัญญาสันติภาพที่มาเลเซียโดยไม่ชี้แจงประเด็นเหล่านี้ให้ประชาชนไทยทราบ และถามว่ารัฐบาลมั่นใจหรือไม่ว่าจะไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศไทย
 
                                    
                                    