เมื่อเวลา 16.15 น. วันที่ 6 ตุลาคม 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสิริพงษ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะกรรมการอำนวยการและบริหารสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติ (คอภ.) ครั้งที่ 1/2568 โดยที่ประชุมได้รับทราบรายงานสถานการณ์น้ำในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ซึ่งจากการประเมินของทุกหน่วยงานพบว่า ระดับน้ำเริ่มมีแนวโน้มลดลง เช่น กรณีน้ำป่าไหลหลากที่จังหวัดอุตรดิตถ์เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเหตุการณ์ระยะสั้นและคลี่คลายแล้ว
นายสิริพงษ์ กล่าวว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบให้ตั้ง คณะกรรมการปฏิบัติการระบายน้ำ โดยมี ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน เพื่อบริหารจัดการการระบายน้ำทั่วประเทศ โดยจะมีการประชุมติดตามผลทุกสัปดาห์ และรายงานความคืบหน้าต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเป็นประจำ
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ดูแลการจัดสรรเงินเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย โดยข้อมูล ตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม ถึง 6 ตุลาคม 2568 มีผู้ได้รับผลกระทบรวม 685,554 ครัวเรือน รัฐบาลเตรียมมอบเงินเยียวยาครัวเรือนละ 9,000 บาท รวมวงเงิน 6,169.986 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการทำหนังสือเวียน และคาดว่าจะเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีในวันที่ 14 ตุลาคมนี้
นายสิริพงษ์ กล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ทุกหน่วยงาน เร่งรัดการเบิกจ่ายเงินเยียวยาโดยเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้ประชาชนต้องรอนาน พร้อมกำชับให้ กรมชลประทาน ควบคุมการระบายน้ำจากเขื่อนหลัก โดยให้เขื่อนเจ้าพระยา คงอัตราการระบายน้ำไม่เกิน 2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และให้ลดการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์และเขื่อนพระราม 6 พร้อมทั้งเพิ่มการระบายน้ำทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา และเร่งระบายน้ำผ่านประตูมโนรมย์ให้เต็มศักยภาพ
นายกรัฐมนตรี ยังได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมพร้อมเครื่องผลักดันน้ำและเครื่องสูบน้ำทุกจุด เพื่อสนับสนุนการระบายน้ำในพื้นที่คอคอดและลุ่มน้ำตอนล่าง พร้อมให้เร่งสูบน้ำลงสู่อ่าวไทยให้สอดคล้องกับช่วงน้ำทะเลลง เพื่อบรรเทาผลกระทบจากน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำให้ได้มากที่สุด