สำนักข่าว ขแมร์ ไทม์ส รายงานเมื่อวันที่ 18 ก.ย. 68 ว่า พล.ท.หญิง มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมของกัมพูชา ได้ออกมาแถลงประณามการกระทำของทหารไทยที่ปะทะกับชาวกัมพูชาบริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว เมื่อวานนี้ (17 ก.ย. 68) โดยอ้างว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นของกัมพูชา ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 28 คน ซึ่งรวมถึงพลเรือนและพระสงฆ์
การปะทะเกิดขึ้นเพียงไม่กี่นาทีหลังจากที่คณะผู้สังเกตการณ์ระหว่างประเทศ (IOT) เดินทางออกจากพื้นที่ และคณะฯ ได้กลับมาตรวจสอบอีกครั้งในช่วงเย็นวันเดียวกัน
กระทรวงกลาโหมกัมพูชาระบุว่า การกระทำของฝ่ายไทยเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วม รวมถึงเป็นการบังคับใช้กฎหมายไทยในดินแดนของกัมพูชา ซึ่งถือเป็นการละเมิดอธิปไตยของกัมพูชาอย่างร้ายแรงและผิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็นกฎบัตรสหประชาชาติ กฎบัตรอาเซียน และสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
กัมพูชายังคงยืนยันว่า การกระทำของชาวกัมพูชามีจุดประสงค์เพื่อปกป้องที่ดินของตนเองที่ครอบครองมาเป็นเวลานาน จากการที่ฝ่ายไทยเข้ามาสร้างรั้วกั้น พร้อมทั้งย้ำว่ากองกำลังกัมพูชาและเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่ประจำการในพื้นที่นั้น ไม่มีอาวุธและปฏิบัติหน้าที่อย่างมืออาชีพตามหลักสันติวิธี และปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด
สุดท้ายนี้ กัมพูชาเรียกร้องให้ไทยเคารพเจตนารมณ์ของการหยุดยิง และยึดมั่นในคำมั่นสัญญาที่จะหลีกเลี่ยงการกระทำใดๆ ที่จะทำให้สถานการณ์ตึงเครียดขึ้น โดยปัญหาชายแดนที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ควรได้รับการแก้ไขผ่านคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจปี 2543 (MOU43) และยังคงแสดงความมุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับไทยในทุกระดับเพื่อรักษาสันติภาพและเสถียรภาพต่อไป