จับตากระทรวงแรงงาน! พรรคประชาชนข้องใจโผ ครม.ใหม่ สวนทางความหวังแรงงานไทย
ข่าวการเมือง

จับตากระทรวงแรงงาน! พรรคประชาชนข้องใจโผ ครม.ใหม่ สวนทางความหวังแรงงานไทย

วันที่ 10 กันยายน 2568 นาย เซีย จำปาทอง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับกระแสรายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายใต้การนำของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โดยระบุว่า โผ ครม.อนุทิน 1 เริ่มนิ่งแล้วและพบว่ากระทรวงแรงงานไม่ได้อยู่ในโควต้าของพรรคภูมิใจไทย

นายเซียกล่าวว่า กระทรวงแรงงานไม่ใช่กระทรวงในสายตาของพรรคภูมิใจไทย แต่เป็นกระทรวงที่น่าสนใจและอยู่ในสายตาของตนและพรรคประชาชน เนื่องจากพรรคประชาชนเข้าใจและให้ความสำคัญกับคนทำงาน ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศและเป็นกำลังหลักในการพัฒนาเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ กระทรวงแรงงานเคยอยู่ภายใต้การบริหารของ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ จากพรรคภูมิใจไทย แต่จากโผ ครม. ล่าสุด นายอนุทินไม่ได้จัดสรรกระทรวงแรงงานให้กับพรรคภูมิใจไทยและมอบหมายให้ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง ส.ส.สระแก้ว พรรคพลังประชารัฐ เข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน

 

นายเซีย ระบุว่า ตนรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เพราะคาดหวังว่านายอนุทินจะใช้ช่วงเวลา 4 เดือนนี้ ในการออกนโยบายที่สามารถสร้างผลลัพธ์แบบ Quick Win เช่น การรื้อฟื้นนโยบายคนละครึ่งจากรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือ การกำหนดค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศแบบไม่มีเงื่อนไข ซึ่งน่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างคะแนนนิยมได้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นไม่เป็นไปตามที่คาด

สำหรับ น.ส.ตรีนุช นายเซียกล่าวว่า ไม่มีประวัติด้านความเชี่ยวชาญหรือเกี่ยวข้องกับภาคแรงงาน อย่างไรก็ตาม ตนจะติดตามการทำงานของรัฐมนตรีกระทรวงแรงงานคนใหม่อย่างใกล้ชิด ว่าจะมีนโยบายที่ชัดเจนเพื่อแรงงานหรือไม่

นายเซียกล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงที่นายพิพัฒน์จากพรรคภูมิใจไทยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานนั้น กระทรวงไม่ได้มีการผลักดันเรื่องค่าแรงอย่างจริงจัง ไม่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงาน และปล่อยให้มีกรณีที่กลุ่มนายทุนปิดกิจการโดยไม่ดูแลลูกจ้างจำนวนมาก โดยไม่มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด สร้างความเดือดร้อนให้กับแรงงานจำนวนมาก

แม้ว่านโยบายขึ้นค่าแรงจะไม่ใช่นโยบายหาเสียงของพรรคภูมิใจไทยในการเลือกตั้งที่ผ่านมาและแม้รัฐบาลชุดนี้จะมีเวลาเพียง 4 เดือนในการบริหาร แต่หากนายอนุทินมีความจริงใจและให้ความสำคัญกับแรงงาน ก็สามารถกำหนดนโยบายที่ชัดเจนได้

นายเซียยังได้เสนอแนวทางที่รัฐบาลควรดำเนินการ ได้แก่

- การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำแบบเท่ากันทั่วประเทศ

- การแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงาน

- การคุ้มครองสิทธิของแรงงานที่ไม่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย

- การดูแลและเยียวยาแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากการปิดกิจการ

- การตรวจสอบการดำเนินงานของสำนักงานประกันสังคม

ทั้งนี้ นายเซียกล่าวทิ้งท้ายว่า หวังว่าจะเห็นประเด็นปัญหาเหล่านี้ปรากฏในคำแถลงนโยบายของ นาย อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี