เมื่อเวลา 09.10 น. วันที่ 2 กันยายน 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ให้สัมภาษณ์กรณีกระแสข่าวการยุบสภาในช่วงที่นายกรัฐมนตรีอยู่ระหว่างการรักษาการ โดยระบุว่าขณะนี้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันหลากหลายจนเกิดความสับสน พร้อมย้ำว่าตนได้แสดงความเห็นทางกฎหมายในฐานะเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาไปแล้ว และยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ
ในแง่กฎหมายรักษาการนายกฯ มีอำนาจยุบสภาหรือไม่ นายปกรณ์กล่าวว่า
ผมพูดอะไรไปก็มักจะถูกตำหนิอยู่แล้ว แต่ยืนยันว่าคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ให้ความเห็นทางกฎหมายไว้แล้ว ยังยึดตามนั้น
ส่วนกรณีที่มีรายงานว่าคณะรัฐมนตรีอาจหยิบยกประเด็นการยุบสภาขึ้นหารือ นายปกรณ์กล่าวว่า
ยังไม่ทราบว่าจะมีการยืนยันอะไรในที่ประชุมครม.หรือไม่ และยังคงยืนยันในความเห็นเดิมของกฤษฎีกา
เมื่อถามว่า หากรักษาการนายกฯ ตัดสินใจยุบสภาจริง จะมีผลทางกฎหมายหรือไม่ นายปกรณ์ตอบว่า
เรื่องยังไม่เกิด อย่าเพิ่งคาดเดาอะไร ขอให้ใจเย็นก่อน
ในประเด็นว่า หน่วยงานใดจะมีอำนาจตัดสินชี้ขาดเรื่องนี้ นายปกรณ์ระบุว่า
โดยหลักการแล้ว การตีความรัฐธรรมนูญเป็นหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญ ส่วนคณะกรรมการกฤษฎีกามีหน้าที่ให้ความเห็นทางกฎหมายเท่านั้น ซึ่งก็มีหลายฝ่ายเสนอความเห็นต่างกัน จึงไม่อยากให้สถานการณ์ซับซ้อนมากไปกว่านี้
หากมีการยุบสภาจริง แล้วเกิดการยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย จะส่งผลต่อเสถียรภาพทางการเมืองอย่างไร นายปกรณ์กล่าวว่า
ยังไม่ขอตอบ เพราะเรื่องยังไม่เกิดและไม่อยากให้ความเห็นที่อาจสร้างความเข้าใจผิด เพราะตนไม่ใช่นักวิชาการ จะพูดอะไรมากก็ถูกวิจารณ์อีก
ทั้งนี้ นายปกรณ์ทิ้งท้ายว่า สิ่งที่ตนให้ความเห็นนั้นเป็นไปตามหลักกฎหมายส่วนการตัดสินใจจะดำเนินการหรือไม่นั้น เป็นอำนาจของรัฐบาลที่ต้องพิจารณาตามความเหมาะสม