วันที่ 29 ตุลาคม 2568 พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน ที่อาจกระทำความผิดโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จากการนำสิทธิในโครงการ คนละครึ่งพลัส ไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ เนื่องด้วยในห้วงวันที่ 29 ตุลาคม 2568 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568 รัฐบาลภายใต้การนำของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้จัดให้มีโครงการ คนละครึ่งพลัส เพื่อเป็นการช่วยเหลือและบรรเทาภาระค่าครองชีพ ในสถานการณ์เศรษฐกิจที่มีแนวโน้มชะลอตัว ผ่านวงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น
โครงการคนละครึ่งในอดีตที่ผ่านมา (ระหว่างปี พ.ศ. 2563 ถึง 2564) ได้พบพฤติการณ์ของประชาชนและร้านค้าบางส่วน ใช้สิทธิอย่างไม่ถูกต้อง นำสิทธิไปแลกเงินสด สมรู้ร่วมคิดในการใช้สิทธิโดยไม่มีการซื้อขายสินค้าจริง

ถือเป็น การแสดงข้อความอันเป็นเท็จ และเข้าข่ายความผิดฐาน ฉ้อโกง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อาจถูกระงับสิทธิไม่ให้เข้าร่วมโครงการอื่นของรัฐ และยังต้องชดใช้คืนเงินให้รัฐอีกด้วย
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอเตือนพี่น้องประชาชนที่ได้รับสิทธิคนละครึ่งพลัส ห้ามนำสิทธิดังกล่าวไปขายต่อให้กับบุคคลอื่น หรือใช้สิทธิโดยไม่มีการซื้อ-ขายสินค้าจริง เนื่องจากเข้าข่ายเป็นความผิดตามกฎหมาย และหากพี่น้องประชาชนพบเห็นพฤติกรรมในลักษณะดังกล่าว สามารถแจ้งเบาะแสการทุจริตได้ที่ สายด่วน 191 หรือ สายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง