เงินพิเศษ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผู้ถือบัตรเตรียมรับเงินใช้จ่าย พ.ย.-ธ.ค.68 นี้ วงเงินทั้งสิ้น 1,700 บาทต่อคน โดยจะแบ่งเติมเข้าให้ผู้ถือบัตรจำนวน 2 รอบ เดือนละ 850 บาทต่อคนต่อเดือน เพิ่มเติมจากวงเงินที่ได้รับเดิมจำนวน 300 บาทต่อคนต่อเดือน
รอบที่ 1 เดือน พฤศจิกายน
รับเงินเพิ่ม 850 บาท + วงเงินเดิม 300 บาท รวมเป็น 1,150 บาท/เดือน
รอบที่ 2 เดือน ธันวาคม
รับเงินเพิ่ม 850 บาท + วงเงินเดิม 300 บาท รวมเป็น 1,150 บาท/เดือน
สามารถใช้จ่ายไม่จำกัดวงเงินในแต่ละวัน ไม่ต้องจ่ายคนละครึ่ง เหมือนกลุ่มผู้เสียภาษี และ กลุ่มประชาชนทั่วไป
ย้ำ! ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ไม่ต้องลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ ไม่ต้องลงทะเบียนคนละครึ่ง พลัส และไม่ต้องกดยืนยันแต่อย่างใด กรมบัญชีกลางจะโอนเงินเข้าบัตรให้โดยตรง หากมีวงเงินคงเหลือในเดือนใด จะไม่มีการสะสมไปในเดือนถัดไป
ซึ่งงวดแรก บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ พฤศจิกายน 2568 ผู้ถือบัตรรายเดิมจะได้รับเงินช่วยเหลือ พร้อมวงเงินเดิม รายละเอียดดังนี้
วันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 (เป็นวงเงินสิทธิไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป)
เงินพิเศษเติมเข้าบัตร 850 บาทต่อคนต่อเดือน
วงเงินซื้อสินค้า 300 บาทต่อคนต่อเดือน
วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน (ต.ค. - ธ.ค. 68)
วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาทต่อคนต่อเดือน
(ประกอบด้วย บขส. รถไฟ ขสมก. รถไฟฟ้า และรถโดยสารเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ)
วันที่ 20 พฤศจิกายน 2568
เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน
สำหรับผู้มีสิทธิที่เป็นคนพิการ ซึ่งมีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเบี้ยความพิการ 800 บาทต่อเดือน (โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก ของผู้มีสิทธิ หรือบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้มีสิทธิหรือผู้รับมอบอำนาจที่ใช้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาท)
วันที่ 24 พฤศจิกายน 2568
เงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยที่ได้รับสิทธิในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 รอบแก้ไขรายการที่โอนเงินไม่สำเร็จ ครั้งที่ 1 ในอัตรา 100 บาทต่อเดือน เป็นระยะเวลา 8 เดือน (เดือนกุมภาพันธ์ - กันยายน) ตามเดือนที่ได้รับสิทธิกำหนดโอน แบ่งกลุ่มตามวันเดือนปีเกิด
โดยจะโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผู้มีสิทธิแจ้งตามหนังสือยินยอมโอนเงินสวัสดิการเข้าบัญชีร่วมกับบุคคลอื่นหรือบัญชีบุคคลอื่น หรือโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก ของผู้มีสิทธิ
ขอบคุณข้อมูลจาก กรมบัญชีกลาง