แม่จ้างวินจักรยานยนต์ ให้ส่งลูก 8 ขวบไปโรงเรียน แต่เด็กกลับถูกพาไปย่ำยี ตร.ตามรวบทันควัน
ข่าวอาชญากรรม

แม่จ้างวินจักรยานยนต์ ให้ส่งลูก 8 ขวบไปโรงเรียน แต่เด็กกลับถูกพาไปย่ำยี ตร.ตามรวบทันควัน

วานนี้ (11 ธ.ค. 2568) ที่ ห้องสืบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.ปองภพ ประสบพิชัย ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย พ.ต.ท.ธรรศ รัฐปัตย์ รอง ผกก.สืบสวน และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา ได้ควบคุมตัว นายพงศธร อายุ 42 ปี ชาว ตำบลหัวรอ อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก เข้าทำการสอบสวน

เหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 ธ.ค. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 08.00 น. มารดาของผู้เสียหายได้ว่าจ้างชาย ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นวินจักรยานยนต์ให้พาบุตรสาว อายุ 8 ปี ไปส่งที่โรงเรียน แต่ผู้ต้องหากลับพาเด็กไปยังสถานที่ในพื้นที่อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง และก่อเหตุอนาจารแทน ต่อมา พลเมืองดี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านในพื้นที่ พบเห็นความผิดปกติ จึงเข้าช่วยเหลือเด็ก และพาส่งให้ญาติ พร้อมเล่าเหตุการณ์ที่พบให้ทราบ ขณะที่ผู้ต้องหาได้หลบหนีออกจากพื้นที่ทันที

หลังจากผู้เสียหายเดินทางมาแจ้งความ จึงมีการรายงานเหตุให้ทราบ ผู้บังคับบัญชาจึงสั่งการทันที ให้ชุดสืบสวนเร่งตรวจสอบเส้นทางและกล้องวงจรปิด จนสามารถระบุตัว นายพงศธร ผู้ต้องหาและออกหมายจับ ก่อนติดตามไปพบว่า ผู้ต้องหาหลบซ่อนอยู่ภายในวัดแห่งหนึ่งใน จังหวัดชัยนาท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำหมายจับจากศาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เข้าควบคุมตัว ผู้ต้องหายอมรับว่า เป็นบุคคลตามหมายจับและให้การรับสารภาพในข้อกล่าวหาที่เกี่ยวข้องกับการล่วงละเมิดและพาเด็กอายุไม่ถึงเกณฑ์ไปจากผู้ปกครองโดยไม่มีเหตุอันสมควร

พ.ต.อ.ปองภพ ประสบพิชัย ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา ระบุว่า คดีนี้ถือว่าเป็นภัยต่อสังคม โดยเฉพาะต่อเด็กและเยาวชน จึงเร่งรัดสั่งการให้ พ.ต.ท.ธรรศ รัฐปัตย์ รอง ผกก.สืบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ลงพื้นที่ ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนีและก็ทราบชื่อของคนร้ายจึงออกหมายจับ และ ให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเฝ้าติดตามจนทราบว่านายพงศธร หรือ กลาง ได้หลบหนีไปซุกซ่อนตัวอยู่บริเวณภายในวัดแห่งหนึ่ง ในตำบลห้วยกรดพัฒนา อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท

จึงนำกำลัง ตำรวจพร้อมหมายจับศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เข้าควบคุมตัวนายพงศธร ซึ่งมีลักษณะตรงกับภาพถ่ายทะเบียนราษฎร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและสอบถามแสดงหมายจับ ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยาซึ่งต้องหา กระทำความผิดฐานกระทำชำเราแก่เด็กอายุไม่เกิน 13 ปี ซึ่งไม่ใช่ภรรยาของตนโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม กระทำอนาจารแก่เด็กอายุไม่เกิน 13 ปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม พาเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเพื่ออนาจารโดยปราศจากเหตุอันสมควร พรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดาผู้ปกครองหรือผู้ดูแลเพื่อการอนาจาร

พร้อมทั้งอ่านข้อความในหมายจับดังกล่าวให้นายพงศธรผู้ก่อเหตุฟัง โดยนายพงศธรทราบและเข้าใจข้อความในหมายจับและยอมรับว่าเป็นบุคคลเดียวกันตามหมายจับนี้จริง และไม่เคยถูกดำเนินคดีตามหมายจับนี้มาก่อน จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาพร้อมกับสิทธิ์ให้กับนายพงศธร ทราบข้อกล่าวหา และสิทธิของผู้ถูกจับเป็นอย่างดี โดยผู้ก่อเหตุให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา

ซึ่งการก่อเหตุของ นายพงศธร นั้น ทางครอบครัวของเด็กก่อนหน้าได้ว่าจ้างมอเตอร์ไซค์วินรับจ้าง มารับลูกสาวไปส่งโรงเรียน แต่วินเจ้าประจำนั้นเกิดป่วย ทางวินประจำจึงได้บอกให้ทางนายพงศธร ซึ่งมีอาชีพเดียวกัน ไปรับแทน ได้เพียง 3 วัน ก็มาก่อเหตุ ดังกล่าว ส่วนสาเหตุอ้างว่าเมา แต่จากการตรวจสอบแล้วน่าจะมีพฤติกรรมเกี่ยวกับเรื่องเพศจากการตรวจสอบโทรศัพท์ก็สามารถรู้ได้

พ.ต.อ.ปองภพ ประสบพิชัย ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวฝากถึงเตือนภัย กราบเรียนขอให้ผู้ปกครองช่วยใส่ใจเป็นพิเศษเพราะว่าเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน สำหรับตัวของน้องๆเอง เกิดเหตุการณ์แบบนี้จะเป็นสิ่งที่จะติดอยู่ในความทรงจำของน้องเขาไป ความทรงจำที่เลวร้ายกว่าจะลบเลือนออกไปได้ ก็ใคร่ขอ ให้ผู้ปกครองช่วยใส่ใจอย่างใกล้ชิดกับลูกหลาน พยายามดู อย่าไว้ใจใคร ยุคนี้ค่อนข้างที่จะไว้ใจใครยาก ซึ่งหากมีการเกิดเหตุก็ขอให้รีบแจ้ง พวกผมตำรวจพระนครศรีอยุธยา พร้อมที่จะช่วยเหลืออย่างเต็มที่ จนกว่าจะติดตามคนร้ายได้ ทั้งนี้หลังจากคุมตัวผู้ต้องหามาทำการสอบสวนเบื้องต้น ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกระบวนการตามกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รายงาน