ลูกชายคนโต ตระกูลทองแท่งไทย แจ้งจับหมอ อัยการ ทนาย พบพิรุธ พินัยกรรม 2,000 ล้าน
ข่าวอาชญากรรม

ลูกชายคนโต ตระกูลทองแท่งไทย แจ้งจับหมอ อัยการ ทนาย พบพิรุธ พินัยกรรม 2,000 ล้าน

วันที่ 29 พฤศจิกายน 2568 มีรายงานว่า เมื่อเวลา 08.30 น. ที่ผ่านมา ที่ สภ.เมืองขอนแก่น นายประกิต ทองแท่งไทย ที่ปรึกษานายกเทศมนตรีนครขอนแก่น พร้อมด้วย นายชนาธิป สุโพธิ์ ทนายความ ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีกับ แพทย์จากโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง, อัยการจังหวัดขอนแก่น, และ ทนายความรายหนึ่ง หลังพบว่ามีการร่วมกันจัดทำเอกสารอันเป็นเท็จ นำไปสู่การทำ พินัยกรรมมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งถูกตั้งข้อสงสัยอย่างหนักจากคนในครอบครัว

นายชนาธิป เปิดเผยว่า พินัยกรรมดังกล่าวจัดทำขึ้นโดย นายเฮง ทองแท่งไทย ผู้ที่คนขอนแก่นให้การเคารพนับถือและเป็นนักธุรกิจชื่อดังในพื้นที่ ซึ่งได้เสียชีวิต เมื่อวันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา และได้มีการประกอบพิธีทางศาสนาและพระราชทานเพลิงศพเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และมีการเปิดพินัยกรรมตามขั้นตอน

แต่ครอบครัวพบสิ่งผิดสังเกต ข้อสงสัยและเชื่อได้ว่ามีการปลอมแปลงเอกสารขึ้น เพราะผู้เสียชีวิตเริ่มเข้ารับการรักษาด้วยโรคมะเร็งที่ รพ.ศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มาตั้งแต่ปี 2566 เข้า-ออก รพ.ฯและรับการรักษาแบบพักฟื้นที่ รพ.มาตลอด กระทั่งวันที่ 1-5 พ.ค.2568 ได้เข้ารับการรักษาและพักที่ รพ.ศรีนครินทร์ 6 พ.ค.2568 เข้ารับการตรวจซีทีแสกน ที่ รพ.ฯอีกครั้ง

แต่วันที่ 8 พ.ค.2568 ช่วงเช้าได้มีการออกเอกสารใบรับรองแพทย์ จาก รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง ว่าผู้เสียชีวิตร่างกายสมบูรณ์ แข็งแรงดี ไม่เคยมีประวัติรักษา และมีสติสัมปะชัญญะ และช่วงบ่ายได้ไปจัดทำพินัยกรรม ณ ที่ว่าการ อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น ตามคำแนะนำของอัยการจังหวัดคนหนึ่ง และทนายความคนหนึ่งทั้งที่เจ้าตัวไม่ใช่คนในละแวกนั้น

ผู้เสียชีวิต มีครอบครัว 2 หลัง คนแรกมีทายาทด้วยกัน 4 คนและหย่าร้างกันไปตั้งแต่ปี 2546 และคนปัจจุบัน มีทายาท ร่วมกัน 1 คน ซึ่งในพินัยกรรมคิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 2,000 ล้านบาทนั้น ระบุว่า ทรัพย์สินและเงินสด ตั้งแต่ปี 2534 ลงไปมอบให้กับบ้านหลังที่ 1 และตั้งแต่ปี 2534 จนถึง 2568 มอบให้กับบ้านหลังที่ 2

ซึ่งเมื่อทายาทตรวจสอบข้อมูลและขั้นตอนต่างๆพบเงื่อนงำและข้อสงสัยดังกล่าวขึ้นทั้งเรื่องเอกสารที่จัดทำขึ้นมาซึ่งผู้เสียชีวิตรักษาตัว ที่ รพ.ศรีนครินทร์ มาตลอด จนกระทั่งเสียชีวิต แต่ รพ.เอกชน บอกไม่ป่วย ร่างกายแข็งแรงดี และออกเอกสารจนนำไปสู่การทำพินัยกรรมที่น่าสงสัย

นายชนาธิป กล่าวต่อว่า ครอบครัวกำลังเร่งหาพยานหลักฐานว่า การไปออกเอกสารใบรับรองแพทย์,การทำพินัยกรรม นั้นผู้ตายไปด้วยหรือไม่ หรือมีการกระทำใดๆที่เป็นกระบวนการขั้นตอน ทั้งแพทย์,อัยการและทนายความ อีกทั้งการทำพินัยกรรม ที่ไปทำ ที่ อ.หนองเรือ ซึ่งไม่ใช่พื้นเพของผู้เสียชีวิตและครอบครัวของผู้เสียชีวิตประเด็นนี้ก็น่าสงสัย

จึงเข้าแจ้งความเอาผิดเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาตรวจสอบและสอบสวน รวมทั้งการยื่นเรื่องต่อศาล จ.ชุมแพ เพื่อขอให้พินัยกรรม ดังกล่าวเป็นโมฆะ และขอร่วมเป็นผู้จัดการมรดก เพื่อที่จะตรวจสอบว่าทรัพย์สินของผู้เสียชีวิตนั้นแท้ที่จริงมีอะไรบ้างเพื่อนำไปสู่ความชอบธรรมและคลายข้อสงสัยตามความตั้งใจของคนในครอบครัวที่แท้จริง