วันนี้ (22 พ.ย.68) พลตำรวจโทรุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ พ.ต.ท.อนุรักษ์ โรจนนิรันดร์กิจ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้เดินทางมาเรือนจำพิเศษกรุงเทพ โดยที่ก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้เดินทางเข้าไปด้านในเรือนจำแล้วเช่นกันเพื่อ ตวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เอื้อประโยชน์กลุ่มผู้ต้องขังชาวจีน

พลตำรวจโท รุทธพล เปิดเผยว่า ทั้งตัวเองและผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม ปลัดกระทรวงอธิบดีราชทัณฑ์ และอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษรวมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ร่วมดูในพื้นที่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพโดยใช้เวลาพอสมควรในการเข้าไปดูพื้นที่จริง เบื้องต้นจะให้ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษตั้งเป็นคดีสืบสวนพิเศษ

พ.ต.ท.ประวุธ ตัวเองรับหน้าที่เป็นอธิบดีกรมราชทัณฑ์ในวันที่ 1 ตุลาคม หลังจากนั้นประมาณ 1 เดือนต่อมาตนได้รับข้อมูลเกี่ยวกับการปฎิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบของเจ้าหน้าที่ในเรือนจำ โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริหารเรือนจำ จากนั้นได้รายงานให้กับผู้บังคับบัญชาทราบทั้งปลัด และรัฐมนตรีมีการกำชับมาว่าจะต้องให้ได้ข้อมูลที่ชัดเจนก่อน เพราะตอนที่เราได้รับเรื่องมาเป็นเพียงแค่การข่าว ตนใช้เวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์ ในการเก็บข้อมูลสืบสวนสอบสวน ก่อนจะได้ข้อมูลที่มากพอสมควร และมีความชัดเจนว่าเจ้าหน้าที่ระดับผู้บริหาร ไปจนถึงระดับล่างของเรือนจำรวมแล้วประมาณ 20 คน มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดด้วยกฎระเบียบของกรมราชทัณฑ์ รวมถึงพบว่ามีหญิงชาวจีนเข้ามาในเรือนจำลักษณะค้าบริการทางเพศ จึงมีการวางแผนที่เข้าไปตรวจสอบในวันที่ 16 พฤศจิกายน ที่ผ่านมาโดยมีการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เราไว้ใจได้

เมื่อเราเข้าตรวจค้นเราก็พบกับหญิงชาวจีน 2 คน อายุประมาณ 20 ต้นๆ หญิงชาวจีนคนนึงอยู่ในห้องสองต่อสองกับผู้ต้องขังชาวจีน ส่วนหญิงชาวจีนอีกหนึ่งรายอยู่ระหว่างรอด้านบน ซึ่งตอนนั้นเราได้มีการสอบปากคำหญิงชาวจีน ทั้งสองคนให้การปฏิเสธว่าไม่ได้มาขายบริการ แต่จากการสอบสวนเราเชื่อว่าน่าจะเป็นไปไม่ได้ เพราะขนาดคนที่เขาจะมาพบเขายังไม่รู้จัก เราเชื่อมั่นว่าสองคนนี้น่าจะมีส่วนในการค้าบริการ และพบว่าหญิงชาวจีนทั้ง 2 คน ได้พกถุงยางอนามัย และชุดชั้นในติดตัวมาด้วย

ส่วนในวันที่เข้าไปตรวจค้นในห้องพบว่าหญิงชาวจีน และ ผู้ต้องขังชาวจีนแต่งกายเรียบร้อยแล้ว เพราะมีการปิดล็อคประตูถึงสองชั้นกว่าจะเข้าไปก็ใช้เวลาพอสมควร นอกจากนี้พบกล่องถุงยาง และกระดาษเช็ดชู่ที่เปื้อนสารคัดหลั่ง และพบคราบสารคัดหลั่งบนโซฟา นอกจากนี้ยังพบยาเส้น รวมถึงสุรา เราจึงเก็บข้อมูลตรงนี้มาเป็นพยานหลักฐาน เพื่อส่งตรวจยังสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ขณะที่ในวันจันทร์ 24 พฤศจิกายน ที่จะถึงจะมีเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ จากนั้นเราได้ย้ายบุคคลที่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องออกจากพื้นที่เพื่อให้คณะตรวจสอบ ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยละเอียด

ถึงแม้จะมีการสอบปากคำหญิงชาวจีนทั้งสองคนเป็นที่เรียบร้อยแล้วแต่เจ้าหน้าที่ไม่มีอำนาจในการควบคุมตัว เนื่องจากข้อเท็จจริงยังไม่แน่ชัด จึงปล่อยตัวชั่วคราวไป ถึงแม้คาดว่าทั้ง 2 คนจะเดินทางกลับประเทศจีนไปแล้วแต่ เราก็มีสิทธิ์โดยการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจประสานงานไปยังตำรวจประเทศจีนให้ขึ้นแบล็คลิสต์ไว้ แต่หากพบความผิดเราก็มีสิทธิ์

พร้อมบอกว่าช่วงเวลาที่เกิดเหตุ คือเวลาประมาณ 11.00 โมง โดยกลุ่มแรกที่เข้ามาเป็นญาติผู้ต้องขัง พร้อมบอกว่าปกติทุกวันอาทิตย์ ทางเรือนจำไม่ได้เปิดให้เยี่ยมญาติ แต่ในวันที่เกิดเหตุกลับมีญาติผู้ต้องขังชาวจีนเข้าไปเยี่ยม หลังจากเยี่ยมเสร็จแล้วได้มีผู้หญิงที่เราเชื่อว่าเป็นผู้หญิงค้าประเวณีได้เข้ามา แต่การที่ยืนยันแบบนั้นได้ต้องมีหลักฐานในเมื่อทั้งสองคนปฏิเสธเราต้องหาพยานหลักฐานเพื่อมายืนยันต่อไป

เมื่อถามว่ากลุ่มผู้ต้องขังดังกล่าวเคยมีพฤติกรรมเช่นนี้มาก่อนหรือไม่ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ระบุว่า นานเท่าไหร่ตัวเองไม่ทราบแต่จากการสืบสวนในช่วงเดือนพฤศจิกายนเชื่อว่ามี และจากการสืบสวนเชื่อว่ามีหญิงชาวจีนค้าบริการจะเข้ามาในเรือนจำทุกวันอาทิตย์ พร้อมอธิบายว่าห้องที่เกิดเหตุเป็นห้อง ไว้ใช้รับรองผู้บังคับบัญชาที่มาตรวจเยี่ยมราชการภายในเรือนจำในห้องจะมีโต๊ะ โซฟา ตู้เย็น

พร้อมบอกว่าตอนนี้เรามีการเก็บข้อมูลกล้องวงจรปิดหมดแล้ว แต่ยอมรับว่ามีกล้องวงจรปิดบางส่วนถูกลบไปแล้ว แต่ก็มีบางส่วนที่สามารถกู้คืนมาได้ ส่วนภาพน่าจะเป็นภาพที่เกี่ยวกับหญิงสาวที่เข้ามาภายในเรือนจำส่วนจะเข้ามาทำอะไรนั้นเราจะต้องทำการตรวจสอบ

โดยหญิงชาวจีนที่เรียกมาให้บริการจะเดินทางเข้าบริเวณประตูด้านหน้าที่เจ้าหน้าที่ใช้ปกติ โดยมีเจ้าหน้าที่ของเรือนจำที่มีส่วนรู้เห็นพา และได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาพาเข้าไป โดยผู้หญิงชาวจีนจะขึ้นไปที่ห้องผู้บังคับบัญชาก่อน ซึ่งอยู่บริเวณชั้นสอง ก่อนที่จะเดินทางเชื่อมของห้องผู้บังคับบัญชาลงไปยังห้องเกิดเหตุ

เมื่อถามว่าใช้เงินจำนวนเท่าไหร่ในการซื้อเจ้าหน้าที่ภายในเรือนจำ ระบุว่าเรื่องนี้ยังไม่แน่ใจ ขอตรวจสอบก่อน ส่วนผู้ต้องขังชาวจีนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิดเบื้องต้นได้ย้ายไปแล้วสามคนส่วนอีก 10 กว่าคนอยู่ที่แดนเดิม แต่ถ้าหากมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมก็จะมีการย้ายเพิ่มเติม ส่วนเส้นเงินพึ่งประสานไปกับกรมสอบสวนคดีพิเศษเมื่อวานนี้ก็จะมาร่วมตรวจสอบในเรื่องนี้ ออกการตรวจสอบเรื่องเส้นนั้นจะต้องใช้อำนาจทางกฎหมาย

ผบ.เมื่อก่อนไม่ทราบ เพราะเพิ่งมารับตำแหน่งเมื่อประมาณเดือนตุลาคม พอมาทราบเรื่องต้นเดือนพฤศจิกายนเราก็เริ่มหาข้อมูลก็พบว่า มีพฤติการณ์การกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และทราบว่าเขาย้ายรับตำแหน่งในเรือนจำพิเศษกรุงเทพได้ประมาณ 1 ปี และจากการตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในยุคของ นายมานพ ชมชื่น ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร

พร้อมบอกว่าการที่ตัวเองได้เข้ามาเป็นอธิบดีกรมราชทัณฑ์ตัวเองมุ่งมั่นให้บ้านของตัวเองสะอาดอะไรที่ไม่ถูกต้องก็จัดการด้วยตนเอง ซึ่งมีการรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบทุกขั้นตอน ข้าราชการส่วนใหญ่ของกรมราชทัณฑ์เป็นคนที่มีระเบียบวินัยรักษากฎหมายรักษาระเบียบเป็นเพียงบางส่วน ที่มีพฤติกรรมเช่นนี้เพราะฉะนั้นเราก็ต้องเคลียร์บ้านให้สะอาด ส่วนช่วงแรกที่ไม่ได้มานำเสนอต่อสื่อมวลชนเนื่องจาก อยากจะจัดการปัญหาในบ้านตัวเอง และอยากจะสื่อสารออกไปว่าทางกรมราชทัณฑ์ไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามที่จะจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นให้เป็นไปตามกฏหมาย และกฎระเบียบ

ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน