อัจฉริยะ เปิดเผยเส้นทางการเงิน เครื่อข่ายเว็บพนันให้กับชุด PCT 1-5 ที่ขึ้นตรงกับ ผบ.ตร.
ข่าวอาชญากรรม

อัจฉริยะ เปิดเผยเส้นทางการเงิน เครื่อข่ายเว็บพนันให้กับชุด PCT 1-5 ที่ขึ้นตรงกับ ผบ.ตร.

วันนี้ (6 พ.ย.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้กล่าวเปิดโปงเส้นทางการเงินทั้งหมดของเครือข่ายเว็บพนัน ให้กับตำรวจชุด PCT 1-5 ที่ขึ้นตรงกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ต่อสื่อมวลชน รวมถึงกรณีที่ 4 สมาคมตำรวจได้ยื่นหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้เอาผิดตนเมื่อวานนี้

โดยนายอัจฉริยะ กล่าวว่า 4 สมาคมตำรวจเปรียบเหมือนเป็นสี่ยอดกุมาร ที่ตนพอทราบมาว่า ถูกไหว้วานจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้มาร้องเรียนเอาผิดตน จึงมองว่าไม่เคยมีที่ไหนในโลกที่พลเมืองดี ที่นำข้อมูลข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผู้กระทำความผิดมาเปิดโปง โดยเฉพาะความผิดที่เกี่ยวข้องกับแก๊งสแกมเมอร์และเว็บพนันออนไลน์

แทนที่สี่ยอดกุมารจะไปเร่งรัดให้ทางตำรวจดำเนินการตรวจสอบและเร่งจับกุมผู้กระทำความผิดที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ แก๊งสแกมเมอร์ และยาเสพติด รวมถึงข้าราชการกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับสินบน กลับพุ่งเป้ามาฟ้องปิดปากคนที่นำข้อเท็จจริงมาเปิดเผยกับสังคม

จากนั้น นายอัจฉริยะ ได้นำแผนผังที่แสดงความเชื่อมโยง ระหว่าง กลุ่มตำรวจ ชุด PCT กับบัญชีม้า ของ นางสาว พิมพ์วิไล หรือ มินนี่ จากเว็บ BNK Master โดยมีจำนวนเงินที่ถูกนำไปมอบให้ชุด PCT 4 เป็นรายเดือน เช่นเดียวกับผังที่ 2 ที่มีแผนการกดเงินคล้ายกันแต่นำไปมอบให้ชุด PCT 3 ในส่วนของผังที่ 3 แสดงถึงความเชื่อมโยงให้เห็นว่า เงินจากบัญชีม้าเว็บพนันของ "มินนี่" ถูกโอนไปยังนายตำรวจระดับสูง ตั้งแต่ระดับรองผู้การจังหวัดระนอง ตำรวจท้องที่ใน จ.สงขลา ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจสืบสวนภูธรภาค 9 และ บก.ปอท. เฉลี่ยแล้วตั้งแต่หลักล้านจนถึงหลักพันบาท แต่ข้อสำคัญคือ เงินจากเว็บพนันของมินนี่นั้นถูกโอนไปยังนายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สส.สงขลา พรรคกล้าธรรม กับ สส.สงขลาอีกราย รวมถึงเครือข่ายนักการเมืองท้องถิ่น และเชื่อมโยงไปถึงกลุ่มบุคคลใกล้ชิดของอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติด้วย

นอกจากนี้ นายอัจฉริยะ ยังได้พูดถึง พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ว่า ยุคสมัยที่เป็นผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือตำรวจไซเบอร์ ถือว่าเป็นยุคสมัยที่ตำรวจไซเบอร์เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย เพราะถึงแม้ว่ายุคดังกล่าวจะมีการจับคดีเว็บพนันออนไลน์ หรือสแกมเมอร์ต่าง ๆ มากมาย ในหลายคนดี การทำสำนวนในคดีนั้นอ่อน จนอัยการสั่งไม่ฟ้อง และคดีที่หลุดไปอีกเป็นจำนวนมาก ตนยอมรับว่า ตนก็เคยสนิทกับ พล.ต.ท.ไตรรงค์ แต่ไม่รู้ว่า ตัวท่านรู้หรือไม่รู้ว่าผู้ใต้บังคับบัญชาของท่านนั้นเคยมีพฤติการณ์ตบทรัพย์ล้มคดี รวมถึงการยักยอกเงินกว่า 24 ล้านบาท ซึ่งตนเคยร้องเรียนไป แต่ทว่ากลับนิ่งและไม่ดำเนินการอะไรใด ๆ ทั้งสิ้น ด้วยเหตุนี้ ตนจึงขอกล่าวท้าไปยัง พล.ต.ท.ไตรรงค์ ว่า กล้ามาดีเบตกับตนไหมว่าทำงานด้วยความสุจริตเที่ยงธรรมสมกับที่พยายามออกมาแถลงข่าวเช้าสายบ่ายเย็นทุกวันจริง ๆ

นายอัจฉริยะ ยังได้กล่าวถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ว่า จะมีความจริงใจในการปราบแก๊งสแกมเมอร์จริงหรือไม่ ตนอยากเห็นความจริงใจจากท่านนายกรัฐมนตรีและ Take Action โดยตรง ไม่ใช่ออกมาพูดลม ๆ แล้ง ๆ เพียงแค่ว่า ได้ยึดทรัพย์ จับกุม และตั้งคณะกรรมการปราบปรามสแกมเมอร์ไปแล้ว

พร้อมทั้งกล่าวถึง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ว่าเป็นพวกขี้ขลาดและอีแอบ ไม่มีความจริงใจในการแก้ไขปัญหาสแกมเมอร์และเว็บพนันออนไลน์ รวมทั้งไม่ยอมออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงกับหน่วยงานต่าง ๆ เรื่องการปราบปรามสแกมเมอร์ แม้กระทั่งเงินที่ให้การสนับสนุนตำรวจในการปฏิบัติหน้าที่ปราบปรามสแกมเมอร์ ก็ไม่เคยให้ ต้องให้ตำรวจไปขอการสนับสนุนจากหน่วยงานอื่น

ดังนั้น ในวันพรุ่งนี้เวลา 10.00 น. ตนจะนำพยานหลักฐานสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการโยกย้ายข้าราชการตำรวจ และที่เกี่ยวข้องกับพวกสมาคมตำรวจ ทั้ง 4 หรือ สี่ยอดกุมาร รวมทั้งมีส่วนเกี่ยวข้องกับคนที่ถูกออกหมายจับ ทั้งในคดีออนไลน์ และเครือข่ายเว็บพนันรายใหญ่กับขบวนการยาเสพติดจากภาคใต้ ซึ่งหลักฐานเหล่านี้ตนไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน จะเปิดให้สื่อเป็นครั้งแรก และเป็นหลักฐานที่ยังไม่เคยถูกดำเนินคดี ยืนยันหลักฐานเหล่านี้เป็นหมัดที่ทำให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติน็อคคาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เช่นเดียวกับ แก๊งสี่ยอดกุมาร ที่จะโดนหมัดน็อคนี้เช่นกัน จนถึงขนาดทำให้ตอบคำถามสังคมไม่ได้ และที่สำคัญคือ ตนจะนั่งประท้วงบนถนนพระราม 4 หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จนกว่าจะสามารถปิดเว็บพนันของเครือข่ายนักการเมือง (นายชนนพัฒฐ์) เพราะตอนนี้ยังเห็นว่าเว็บพนันดังกล่าวยังเปิดใช้งานได้ตามปกติ

นายอัจฉริยะกล่าวทิ้งท้ายว่า ไม่มีใครบ้าเท่าตนที่ยอมแลกกับชีวิตมาเปิดเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับตนเองเลย แต่มันเกี่ยวข้องกับเรื่องของชาติบ้านเมือง ตนไม่กลัวและพร้อมตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน ที่ผ่านมาตนผ่านความตายมาเยอะมากแล้ว จึงยอมแลกด้วยชีวิตกับการต่อสู้ครั้งนี้ ซึ่งตนได้เตรียมบริจาคอวัยวะให้สภากาชาดไทยและบริจาคอุทิศร่างกายเป็นอาจารย์ใหญ่ให้คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อเป็นการอุทิศร่างกายที่วายชนม์ให้แก่ประชาชน หากถึงวันที่ฟ้าลิขิต ตนก็ไม่เสียดายชีวิต ถ้าในบ้านเมืองมีคนแบบตนสักล้านคน ประเทศก็คงดีกว่านี้ พร้อมยืนยันว่า ไม่มีนักการเมืองคนไหนมาเกี่ยวข้องกับตน ตนไม่ใช่มือของใคร และถึงแม้ว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือบิ๊กโจ๊ก จะมีข้อมูลที่เปิดโปงและน่าสนใจ แต่ยืนยันว่าตนไม่ได้จับมือกับบิ๊กโจ๊กแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน