เลขาฯ ป.ป.ส. ลุยตรวจโรงงานเคมีสมุทรปราการ NO Chemical No Drugs อายัดสารเคมีกว่า 20 ตัน สกัดต้นทางยาเสพติด
ข่าวอาชญากรรม

เลขาฯ ป.ป.ส. ลุยตรวจโรงงานเคมีสมุทรปราการ NO Chemical No Drugs อายัดสารเคมีกว่า 20 ตัน สกัดต้นทางยาเสพติด

วันที่ 17 ตุลาคม 2568 พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล เลขาธิการ ป.ป.ส. นำทีมเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบโรงงานสารเคมีแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ ภายใต้นโยบายเชิงรุก NO Chemical No Drugs เพื่อสกัดกั้นการลักลอบนำสารเคมีอุตสาหกรรมไปใช้ในกระบวนการผลิตยาเสพติด

จากการตรวจสอบพบว่า โรงงานดังกล่าว ไม่ได้รายงานการนำเข้าและส่งออกสารเคมีควบคุมตามที่กฎหมายกำหนด เจ้าหน้าที่จึงอายัด โซเดียมคาร์บอเนต จำนวนกว่า 19 ตัน (474 กระสอบ) และ แอมโมเนียมคลอไรด์ จำนวนกว่า 4 ตัน (185 กระสอบ) ไว้เป็นเวลา 30 วัน เพื่อให้บริษัทนำเอกสารหลักฐานมาชี้แจง

จากข้อมูลการสืบสวนของสำนักงาน ป.ป.ส. พบว่า บริษัทดังกล่าวมีการ รับซื้อเคมีภัณฑ์ทั้งสองชนิดจากบริษัทภายในประเทศ เพื่อนำไปส่งออกต่อไปยังประเทศเมียนมา แต่ไม่ได้มีการรายงานการดำเนินการดังกล่าวต่อสำนักงาน ป.ป.ส. ผ่านเว็บไซต์สำนักงาน ป.ป.ส. ตามที่กฎหมายว่าด้วยสารเคมีควบคุมกำหนดไว้

พ.ต.ต.สุริยา เปิดเผยว่า การกระทำในลักษณะนี้ถือเป็นการละเมิดกฎหมาย และมีความเสี่ยงอย่างยิ่งที่สารเคมีเหล่านี้จะถูกนำไปใช้เป็นส่วนประกอบในกระบวนการผลิตยาเสพติดในต่างประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตสำคัญในภูมิภาค

แม้สารเคมีทั้งสองชนิดจะไม่ใช่สารตั้งต้นโดยตรง แต่เป็นส่วนประกอบสำคัญในการผลิตยาเสพติดให้โทษ เช่น ไอซ์ มอร์ฟีน และฝิ่น การไม่รายงานการนำเข้าและส่งออกเท่ากับเปิดช่องให้ขบวนการค้ายาเสพติดเข้าถึงสารเคมีได้ง่ายขึ้น ซึ่ง ป.ป.ส. จะไม่ยอมให้เกิดขึ้น เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าว

พ.ต.ต.สุริยา ระบุเพิ่มเติมว่า การตรวจสอบครั้งนี้อาศัยอำนาจตาม คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 32/2559 และ ประกาศกระทรวงยุติธรรม พ.ศ. 2559 ซึ่งกำหนดให้สารเคมีบางชนิดเป็นสารเคมีควบคุม ผู้ประกอบการที่ผลิต นำเข้า ส่งออก หรือขนย้าย ต้องแจ้งข้อมูลต่อสำนักงาน ป.ป.ส. ทุกครั้งก่อนดำเนินการ

หากบริษัทไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าดำเนินการโดยสุจริต จะถือเป็น ธุรกรรมต้องสงสัย และเลขาธิการ ป.ป.ส. อาจมีคำสั่งให้ทำลายหรือจัดการตามที่เห็นสมควรต่อไป

การลงพื้นที่ครั้งนี้ ไม่เพียงแต่เป็นการบังคับใช้กฎหมาย แต่ยังมุ่งสร้างความตระหนักแก่ผู้ประกอบการถึงความรับผิดชอบต่อสังคม สารเคมีควบคุมทุกชนิดต้องมีระบบรายงานที่โปร่งใส เพื่อป้องกันไม่ให้รั่วไหลไปยังขบวนการผลิตยาเสพติดในประเทศเพื่อนบ้าน

พ.ต.ต.สุริยา กล่าวทิ้งท้าย พร้อมย้ำให้ผู้ประกอบการทุกแห่งที่ครอบครองหรือค้าขายสารเคมีควบคุม ปฏิบัติตามระเบียบการแจ้งข้อมูลอย่างครบถ้วน เพื่อร่วมกัน ตัดวงจรยาเสพติดตั้งแต่ต้นทาง อย่างยั่งยืน หากผู้ประกอบการมีข้อสงสัย หรือต้องการสอบถามเกี่ยวกับข้อกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติด สามารถโทรมาได้ที่ สายด่วน ป.ป.ส. โทร 1386 ที่พึ่งทุกปัญหายาเสพติด

ผู้สื่อข่าวกรุงเทพมหานคร ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน