วันที่ 15 ต.ค.68 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคม. นำโดย พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคม. และทีมงาน ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาสำคัญในคดีค้ามนุษย์ข้ามชาติ บริเวณริมถนน ในอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก
ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมคือ นายอภินพฯ อายุ 59 ปี ตามหมายจับของศาลอาญา 2 ฉบับ ในฐานความผิดรวม 4 ข้อหาหลัก อาทิ ร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไปเป็นธุระจัดหา ซื้อ ขาย จำหน่าย พามาจากหรือส่งไปยังที่ใด หน่วงเหนี่ยวกักขัง จัดให้อยู่อาศัย หรือรับไว้ซึ่งเด็ก โดยมีความมุ่งหมายเพื่อเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี โดยได้กระทำแก่บุคคลอายุไม่เกินสิบห้าปี ซึ่งเป็นความผิดฐานค้ามนุษย์, ร่วมกันเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือชักพาไป ซึ่งบุคคลใดเพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี แม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม และเป็นการกระทำแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี, ร่วมกันเพื่อสนองความใคร่ผู้อื่น จัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหรือหญิง แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม และเป็นการกระทำแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี และร่วมกันพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา เพื่อหากำไร หรือเพื่อการอนาจาร
การจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องจากได้รับแจ้งความร้องทุกข์ว่า มีกลุ่มคนร้ายได้ชักชวนและนำพาเด็กหญิง ร. (นามสมมุติ) ซึ่งขณะเกิดเหตุอายุเพียง 13 ปี 5 เดือน กับเพื่อนอายุ 14 ปี 11 เดือน ไปค้าประเวณีกับลูกค้าชาวจีนที่ประเทศเมียนมา โดยอ้างว่าจะออกค่าเดินทางให้ก่อน แล้วค่อยหักเงินคืนภายหลัง โดยเด็กทั้งสองถูกนำตัวไปพักที่บ้านใน อ.แม่สอด จ.ตาก ก่อนถูกพานั่งเรือข้ามฝั่งไปยังประเทศเมียนมา เพื่อทำงานที่ร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่ง
จากการสืบสวนพบว่า เด็กถูกบังคับให้นั่งรอลูกค้าตั้งแต่เวลา 20.00 น. ถึง 03.00 น. โดยเจ้าของร้านซึ่งเป็นหญิงคนไทย ทำหน้าที่ติดต่อและรับเงินค่าบริการทางเพศจากลูกค้าชาวจีน เมื่อเด็กหญิง ร. ประสงค์จะกลับบ้าน เจ้าของร้านได้อ้างว่าทำงานไม่ครบเป้า และบังคับให้มารดาของเด็กโอนเงินจำนวน 8,000 บาท เพื่อเป็นค่าพาตัวกลับฝั่งไทย จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่า เงินจำนวนดังกล่าวถูกโอนต่อไปยังบัญชีของหญิงเจ้าของร้านและ นายอภินพฯ ผู้ต้องหา จึงเป็นเหตุให้พนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคม. ขออนุมัติหมายจับนายอภินพฯ ต่อศาลอาญาในที่สุด
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคม. ได้สืบทราบว่า นายอภินพฯ ได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก กระทั่งพบนายอภินพฯ ขับรถออกมาจากหมู่บ้านและจอดรถริมถนนใน อ.แม่สอด จึงแสดงตัวเข้าจับกุม
ในชั้นจับกุม นายอภินพฯ ให้การรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับทั้ง 2 หมายจริง แต่ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคม. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน