วันที่ 14 ก.ย. 2568 ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชป.1 กก.3 บก.ป. ร่วมกันจับกุม นายกำพลน์ฯ อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับตามศาลอาญาที่ 3685/2568 ลงวันที่ 19 มิถุนายน 2568 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้างหรือที่อยู่ในครอบครองของนายจ้าง สามารถจับกุมได้ที่ บริเวณริมถนนซอยพงษ์พันธุ์ ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 10 พ.ค.68 เกิดเหตุลักทรัพย์ที่ ร้านสินค้า IT ถ.รามอินทรา 40 แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร นายกำพลน์ฯ อดีตลูกจ้างได้ก่อเหตุลักทรัพย์สินนายจ้าง โดยได้ขโมยทรัพย์สินทั้งโทรศัพท์ iPhone, MacBook, กล้อง dji osmo3, กล้อง go pro, กล้อง sony a7r lV, เลนส์ สองตัว, โดรน dji และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีราคาสูง รวมมูลค่ากว่า 800,000 บาท ผู้เสียหายแจ้งว่าถูกลูกจ้างรายนี้คือ นายกำพลน์ฯ ซึ่งใช้จังหวะที่ไม่มีใครอยู่ในร้านเข้าก่อเหตุอย่างใจเย็น
นายกำพลน์ฯ นับเป็นภัยต่อสังคมอย่างยิ่ง เพราะใช้ความไว้ใจที่นายจ้างมีให้เนื่องจากทำงานร่วมกันมาหลายเดือนเป็นช่องทางในการเข้าถึงทรัพย์สิน ก่อนจะลงมือก่อเหตุ และจากกสืบสวนเพิ่มเติม นายกำพลฯ ยังมีหมายจับในหลายพื้นที่มีหมายจับค้างเก่าในพื้นอื่นอีก 2 หมายจับในคดี “ยักยอกทรัพย์” จึงนับว่าเป็นบุคคลอันตราย และเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผล เพื่อติดตามหาทรัพย์สินที่ถูกขโมยไปคืนให้กับผู้เสียหายต่อไป
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ลงพื้นที่บริเวณซอยพงษ์พันธุ์ ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ พบบุคคลคล้ายนายกำพลน์ฯ ยืนอยู่บริเวณริมถนนในซอยพงษ์พันธุ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าตรวจสอบ พบว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง จึงได้แสดงหมายจับให้นายกำพลน์ฯ ดูและอ่านข้อความในหมายจับให้ฟังและให้อ่านเองแล้วรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง และไม่เคยถูกจับกุมตามหมายจับนี้มาก่อน จึงได้จับกุมนายกำพลน์ฯ จากนั้นได้นำตัวมายัง สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เพื่อทำการบันทึกการจับกุม และควบคุมตัวไปส่งพนักงานสอบสวน สน.โคกคราม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบสวนเบื้องต้น นายกำพลน์ฯ ยอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ว่าก่อเหตุจริง และยอมรับว่าทำไปเพราะ หน้ามืดจากการติดการพนันอย่างหนัก นอกจากนี้ ยังพบว่ามีประวัติอาชญากรรมโชกโชน
ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน