วันที่ 23 ส.ค.68 พ.ต.อ.ชูสิทธิ์ หล่อแสง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อม พ.ต.อ.ยรรยง ทองใบใหญ่ ผกก.สภ.พลับพลาชัย อ. พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ , พ.ต.ท.โชคชัย ชำนาญทาง รอง ผกก.ป. , พ.ต.ท.ศักย์วริศ ภัณฑะประทีป รอง ผกก.สส.สภ.พลับพลาชัย นำตัวนาย นายต้อม (นามสมมติ) อายุ 32 ปี จ.บุรีรัมย์ และพลทหารทิว (นามสมมติ) อายุ 23 ปี ทหารเกณฑ์ประจำการอยู่ที่ค่ายทหารอากาศแห่งหนึ่งที่ดอนเมือง ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บริเวณหนองน้ำทิศเหนือวัดป่าชัน  หมู่ที่ 3 ต.ป่าชัน อ.พลับพลาชัย  จ.บุรีรัมย์ หลังจากเมื่อวันที่ 20  ส.ค.68  เวลาประมาณ 22.30  น.ทั้งสองได้ร่วมกันก่อเหตุใช้อาวุธปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ยิงนายพีรพงษ์ หรือแซงค์ แลดี อายุ 29 ปี ที่อยู่ 60 ม.15 ต.สูงเนิน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ กระสุนเข้าบริเวณหน้าท้อง 6 เม็ด เข้าลำไส้ใหญ่ และโคนขาขวา 1 เม็ด ได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ อาการสาหัส

นายต้อม (นามสมมติ) คนยิงเล่าว่า ก่อนหน้านั้นตนได้รู้จักกับผู้บาดเจ็บทางเฟซบุ๊ก และได้เข้าไปทักเตือนว่าอย่าไปยุ่งกับเมียเขา หมายถึงแฟนของรุ่นน้องในหมู่บ้านเดียวกัน แต่กลับโดนด่าสวนกลับมาจนกระทั่งทะเลาะกันทางเฟซฯเป็นประจำ

วันเกิดเหตุหลังทะเลาะกันทางเฟซ ตนได้ไปพูดคุยกับพลทหารทิว (นามสมมติ) ซึ่งนับถือกันเป็นญาติ เมื่อพลทหารทิว (นามสมมติ) ทราบเรื่องได้บอกกับตนว่าผมมีปืนจึงได้ทักเฟซไปหาผู้บาดเจ็บและท้ามาเจอกันกลางคืน

พอผู้บาดเจ็บขับรถกระบะมาถึงแล้วเดินถือไฟฉายลงมา ตนซึ่งตั้งท่ารออยู่แล้ว จึงไปซุ่มอยู่พุ่มไม้ พอคนเจ็บเดินมาใกล้ก็ยิงทันที 1 นัด ก่อนตนจะกลับไปอยู่บ้านแล้วเอาปืนไปฝังดิน พลทหารทิว (นามสมมติ) ได้ขึ้นรถกลับค่ายทหารที่ดอนเมือง จนกระทั่งมาถูกจับกุมดังกล่าวยอมรับว่าไม่ได้ไตร่ตรองก่อน และยังชวนเพื่อนมาซวยด้วย

ขณะที่พลทหารทิว (นามสมมติ) บอกว่าตนเองซื้อปืนมาจากทางเน็ตในราคา 5,000 บาท ส่วนลูกปืนเป็นของนายต้อม (นามสมมติ) คนยิง ไม่ได้ตั้งใจจะก่อเหตุรุนแรงขนาดนี้แต่เห็นนายต้อม (นามสมมติ) มีความโกรธแค้นจึงยื่นข้อเสนอให้ว่า มีปืน

ทั้งนี้หลังสอบสวน พ.ต.ต.ชาคริต นิสัยรัมย์ สว.(สอบสวน) สภ.พลับพลาชัย เจ้าของคดี ได้ตั้งข้อหาทั้งสองร่วมกันพยายามฆ่า และ พรบ.อาวุธปืน

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จ.บุรีรัมย์ รายงาน