วันที่ 12 กรกฎาคม 2568 มีรายงานว่า เกิดเหตุรถ ชนกันจำนวนหลายคัน บริเวณถนนพหลโยธินขาเข้าช่องทางด่วนกม.37+636 ตรงข้ามม.กรุงเทพ ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี

โดยที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตชื่อ นายเอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี สภาพศพนอนเสียชีวิตอยู่กลางถนน ห่างออกไปประมาณ 50 เมตร พบรถ 10 ล้อตู้ทึบ ยี่ห้อฮีโน่ ทะเบียน พระนครศรีอยุธยา จอดอยู่ข้างทางเลนซ้าย

ที่ท้ายรถพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า จีออโน่ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สภาพรถอัดติดอยู่ที่ท้ายรถซึ่งเป็นรถของผู้เสียชีวิตขับขี่มา มีนายประวิทย์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี คนขับรถ 10 ล้อ ยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในที่เกิดเหตุ

นอกจากนี้ ยังมีผู้บาดเจ็บเป็นผู้ชายอีก 4 คน ซึ่งเป็นพลเมืองดีที่มาช่วยโบกรถ 2 คน เจ้าหน้าที่มูลนิธิปอเต็กตึ้งนำส่งโรงพยาบาลเปาโลรังสิต 2 และเป็นคนขับรถรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ ทะเบียน กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่มูลนิธิปอเต็กตึ้งนำส่งโรงพยาบาลสีกัน และผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า จีออโน่ สีดำ ทะเบียน กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่นำส่งโรงพยาบาลสีกัน

จากการสอบถาม นายประวิทย์ กล่าวว่า ตนขับรถมาเรื่อย ๆ เลนกลางและมีรถจักรยานยนต์ขับแซงรถตนไป จากนั้นก็มีควันขึ้นที่ท้ายรถและมีเสียงดัง ตนคิดว่ายางรถระเบิดจึงเปิดไฟเลี้ยวจอดข้างทาง ตนกำลังไปบางพลี จ.สมุทรปราการ ขับรถมาจากโฮมโปร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา

ด้าน สิบตรีฉัตรชัย จาดฤทธิ์ เจ้าหน้าที่มูลนิธิปอเต็กตึ้ง รหัสจุฬา008 กล่าวว่า ตนได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถชนกันจำนวนหลายคัน มีคนเจ็บและผู้เสียชีวิต ถึงที่เกิดเหตุพบว่ามีลุงคนขับรถแท็กซี่ซึ่งมาโบกรถช่วยอำนวยการจราจรไม่ให้รถชนซ้ำซ้อน ผู้เสียชีวิตที่นอนอยู่กลางถนนถูกรถจักรยานยนต์ชนได้รับบาดเจ็บ 2 คน และนำส่งโรงพยาบาลเปาโลรังสิต 2

ส่วนคนขับรถจักรยานยนต์ พีซีเอ็กซ์ เจ้าหน้าที่มูลนิธิปอเต็กตึ้งนำส่งโรงพยาบาลสีกัน ซึ่งเป็นวัยรุ่นได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯนำส่งโรงพยาบาลสีกัน แล้วคนขับรถจักรยานยนต์ จีออโน่ มาชนซ้ำซ้อนอีกครั้งได้รับบาดเจ็บเหมือนกัน เจ้าหน้าที่นำส่งโรงพยาบาลสีกัน สรุปแล้วมีคนเจ็บทั้งหมด 4 คนและผู้ใช้ชีวิต 1 คน

ด้าน ร.ต.อ.อนุสรณ์ หลังจากตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้วจึงบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐานและได้ให้เจ้าหน้าที่นำผู้เสียชีวิต ส่งนิติเวชโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ เพื่อตรวจสอบอีกครั้ง พร้อมทั้งนำตัวนายประวิทย์ไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.คลองหลวง

ต่อมา พ่อของผู้เสียชีวิตมาถึงที่เกิดเหตุร้องไห้แทบขาดใจเมื่อเห็นศพลูกชายนอนเสียชีวิตอยู่กลางถนน ด้าน แม่ของผู้เสียชีวิตได้ให้ข้อมูลว่า ไม่ทราบว่าลูกชายจะไปไหน ทราบข่าวจากเพื่อนว่าลูกชายรถชนเสียชีวิตจึงมาดูที่เกิดเหตุ