เมืองคอนเดือด! 2 คนร้ายบุกซัลโว 5 นัด จบชีวิต ปอนด์ โมคลาน คาบ้าน

เมืองคอนเดือด! 2 คนร้ายบุกซัลโว 5 นัด จบชีวิต ปอนด์ โมคลาน คาบ้าน

เมื่อเวลาวันที่ 8 ก.ค. 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งเหตุยิงกันเสียชีวิต บริเวณบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งเปิดเป็นแผงขายกล้วย และสัปปะรดริมถนนสายอู่ตะเภา-ท่าศาลา เลขที่ 28 หมู่ 11 ตำบลโมคลาน อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช จึงพร้อมด้วยกำลังชุดสืบสวนสอบสวน แพทย์เวร รพ.ท่าศาลา และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยประชาร่วมใจ รีบรุดไปสอบสวน

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านครึ่งปูน ที่บริเวณหน้าบ้าน พบร่างผู้เสียชีวิต ทราบชื่อผู้เสียชีวิต คือ นายอิทธิอมร หรือฉายา ปอนด์ โมคลาน อายุ 29 ปี เป็นเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ ถูกยิงหลายนัดเข้าที่ศีรษะ 3 นัดและลำตัว 1 นัด ล้มหงายเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่ในชุดกางเกงขาสั้นสีดำ เสื้อยืดสีดำ มือซ้ายกำสร้อยคอทองคำน้ำหนักประมาณ 1 บาท สภาพคล้ายกับถูกแรงกระชากจนขาด ตรวจสอบภายในบ้าน พบกระสุนปืนยังเจาะห้องกระจกอยู่ 1 นัดจนกระจกแตกกระจาย และพบกล้วยน้ำหวา 3 หวีวางอยู่บนลังพลาสติกสีส้มใส่น้ำแข็งขนาดใหญ่ ในขณะที่บนราวเหล็กด้านข้างมีกล้วยไข่แขวนอยู่จำนวนมาก

จากการสอบสวนทราบว่า นายอิทธิภัทร เป็นบุตรชายของนายอมรศักดิ์ ซึ่งเป็นคนที่มีชื่อเสียงในพื้นที่ ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือ ปัจจุบันมีตำแหน่งเป็นประธานกองทุนหมู่บ้าน นับว่ามีฐานะดีระดับหนึ่งในหมู่บ้าน โดยในช่วงที่เป็นวัยรุ่น นายอิทธิภัทร กลับมีนิสัยชอบลักเล็กขโมยน้อย สร้างความเดือดร้อนให้เพื่อนบ้านอย่างต่อเนื่อง

จนต่อมา ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดทั้งในฐานะผู้เสพและผู้ขายกลายเป็นขาใหญ่ในพื้นที่ จนได้รับฉายา ปอนด์ โมคลาน และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมดำเนินคดีในข้อหาค้ายาเสพติดต้องโทษจำคุกอยู่หลายปี เพิ่งพ้นโทษออกจากคุกมาได้ประมาณ 4 - 5 เดือน โดยบอกกับพ่อแม่ และญาติ ๆ รวมทั้งเพื่อนบ้านว่า ตัวเองกลับตัวเป็นคนดี เป็นสุจริตชนแล้ว โดยจะหันมาประกอบอาชีพรับซื้อกล้วยไข่ สัปปะรดจากเพื่อนบ้านมาวางและแขวนขายหน้าบ้าน อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่เชื่อว่า ผู้เสียชีวิตจะกลับตัวเป็นคนดีจริง ๆ และน่าจะมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติดอยู่เหมือนเดิม เพียงแต่ยึดอาชีพขายกล้วยบังหน้าเท่านั้น

ก่อนเกิดเหตุได้มีคนร้ายจำนวน 2 คนได้ขี่รถ จยย.สีแดง คนขับสวมหมวกกันน็อคสวมเสื้อสวมเสื้อแจ็คเก็ตสีดำ คนซ้อนท้ายสวมเสื้อฮู้ดสีดำคลุมศีรษะขับรถมาจอดและและเรียกชื่อ ปอน โมคลาน เหมือนเป็นคนที่รู้จักสนิทสนมอ้างว่าขอซื้อกล้วยไข่ 3 หวี ในขณะที่ผู้เสียชีวิตหยิบกล้วยไข่จากราวที่แขวน 3 หวี มาวางบนลังน้ำแข็งใบใหญ่และหันไปหยิบถุงเพื่อใส่กล้วยไข่ คนร้ายที่นั่งซ้อนได้เดินลงมาและชักอาวุธปืนรัวยิงใส่ผู้เสียชีวิต 5 นัดซ้อน จนล้มฟุบเสียชีวิตคาที่ ก่อนพากันขับรถ จยย.ซ้อนท้ายหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

ในขณะที่นายอมรศักดิ์ พ่อผู้เสียชีวิต เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุบุตรชายได้ยืนขายกล้วยอยู่หน้าบ้าน ในขณะที่ตนกำลังจะขับรถ จยย.ออกไปทำธุระนอกบ้าน ได้มีคนร้าย 2 คนขี่รถ จยย.สีแดงมาจอดหน้าร้าน คนหนึ่งสวมเสื้อแจ็คและสวมหมวกกันน็อคสีดำ ส่วนอีกคนสวมเสื้อแจ็คเก็ตสีดำมีฮู้ดคลุมศีรษะ เข้ามาจอดทำทีว่าซื้อกล้วย ซึ่งตนก็ไม่ได้สงสัยอะไร คิดว่าเป็นลูกค้ามาซื้อกล้วยตามปกติ

จากนั้น ตนได้ขี่รถ จยย.ออกไปทำธุระ ออกไปได้ไม่กี่ร้อยเมตร ตนก็ได้ยินเสียงปืนดัง แต่ไม่ได้สนใจอะไร ยังขับรถไปจนถึงบ้านเพื่อน ไม่ทันได้นั่งก็มีคนตามมาบอกว่า ลูกชายเสียชีวิตแล้ว จึงกลับมาดู ส่วนสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท ที่อยู่ในกำมือซ้ายของลูกชายนั้น เป็นสร้อยคอทองคำของน้องสาวผู้เสียชีวิต ที่ลูกชายไปยืมมาสวมใส่ ซึ่งคนร้ายพยายามจะชิงเอาไปด้วย แต่ลูกชายคงจะไม่ยอมและแย่งดึงกลับมาได้ ก่อนที่คนร้ายจะตัดสินใจรัวยิง 5 นัดซ้อน

โดยประเด็นที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสงสัยว่า คนร้ายจะชิงทรัพย์นั้น ตนมั่นใจว่าไม่ใช่อย่างแน่นอน ตนมั่นใจว่าน่าจะมาจากปัญหาเดิมคือการพัวพันกับยาเสพติดและเกิดการหักหลังกัน น่าจะถูกสั่งเก็บ เพียงแต่คนร้ายเห็นว่าลุกชาย สวมสร้อยคอทองคำอยู่ด้วย จึงเข้าไปกระชากชิงไปเป็นของแถม แต่เมื่อเมื่อชิงทองไม่สำเร็จ จึงตัดสินใจรัวยิงอย่างโหดเหี้ยม 5 นัดซ้อน จากนั้นคนร้ายจึงรีบวิ่งหลบหนีไป โดยไม่ได้เอาสร้อยคอทองคำไปด้วย ตนยืนยันและมั่นใจว่า คนร้ายประสงค์ต่อชีวิตเป็นหลัก ไม่ได้ประสงค์ต่อทรัพย์สินสร้อยคอทองคำ แค่หวังเป็นของแถมและเบี่ยงเบนประเด็นการสังหารเท่านั้น

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า หลังจากก่อเหตุคนร้ายได้ขับรถหลบหนีไปทาง อ.ท่าศาลา และกล้องวงจรปิดที่อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุ 300-400 เมตร สามารถจับภาพเอาไว้ได้ โดยคนที่นั่งซ้อนท้ายพยายามจะถอดเสื้อฮู้ดสีดำออก เพื่อตบตาหรืออำพรา งเจ้าหน้าที่ที่แกะรอยติดตามจับกุม ซึ่งพบว่าสวมเสื้อยืดสีขาวแขนสั้นเอาไว้ด้านใน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระดมกำลังออกสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุที่แน่ชัด และรวบรวมพยานหลักฐานคลี่คลายคดีเพื่อติดตามจับกุม 2 คนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยด่วน

ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครศรีธรรมราช รายงาน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ