นักธุรกิจน้ำดื่ม ร้องกองปราบฯ ถูกหลอกกู้เงินดอกเบี้ยโหด อ้างจะได้วงเงิน ถึง 100 ล้าน ขนเอาเอกสารการค้าไปหมด ก่อนส่งลูกน้องมาทวงหนี้ข่มขู่ถึงบ้าน

นักธุรกิจน้ำดื่ม ร้องกองปราบฯ ถูกหลอกกู้เงินดอกเบี้ยโหด อ้างจะได้วงเงิน ถึง 100 ล้าน ขนเอาเอกสารการค้าไปหมด ก่อนส่งลูกน้องมาทวงหนี้ข่มขู่ถึงบ้าน

วันที่ 2 ก.ค.68 ที่ ริมถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร กทม. หน้า กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี  “ทนายความผู้ผดุงความยุติธรรม“ได้พานายวรเดช (สงวนนามสกุล)อายุ 51 ปี นักธุรกิจนวัตกรรมเครื่องผลิตน้ำดื่มบริสุทธิ์จากอากาศ(น้ำด่าง)เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) หลังจากถูกกลุ่มมิจฉาชีพหลอกลวงให้กู้เงินนอกระบบ คิดอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดสูงถึง 720% ต่อปี

นายนายวรเดช ผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อเดือน พ.ค. ตนได้เลื่อนฟีดเฟซบุ๊ก เจอโพสต์กู้เงิน ที่ให้กู้เงินวงเงินสูงถึง 100 ล้านบาท จึงได้ทักไปคุยรายละเอียด เขาจึงส่งรายละมาให้ตน และให้ส่งทะเบียนการค้า บัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ แล้วก็จะมีพนักงานติดต่อกลับมา ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 3 พ.ค 68 ทางบริษัทกู้เงินดังกล่าวได้มาติดต่อ ขอดูกิจการต่างๆที่บริษัทของตน จะใช้กลไกลหลอกให้ตายใจ โดยการแต่งตัวดี สุภาพเรียบร้อย ให้ดูน่าเชื่อถือ เหมือนเป็นบริษัทหลักทรัพย์ใหญ่ และยังให้ตนค้ำประกันวงเงินไว้อีก 5 ล้านบาท และเขาเอาเอกสาร ทะเบียนการค้า เอกสารที่เกี่ยวกับบริษัทไปหมด เพื่อที่จะประเมินกิจการว่าจะได้วงเงินเท่าไหร่

ต่อมา ทางบริษัทก็จะส่งพนักงานมา โน้มน้าวตนว่าวงเงินยังไม่ได้ ให้ทำเครดิตไปก่อน ให้จ่ายรายวัน ถ้าเครดิตดี ส่งตรงเวลา เขาก็จะเพิ่มวงเงินให้ ตลอดระยะเวลา 24 วัน เขาบอกว่าจะให้เงินมา 1 ก้อน หักค่าเพจ 5% และค่าดำเนินการ 5% ดอกเบี้ยก็จะอยู่ที่ 120% ต่อเดือน ซึ่งเขาให้กู้ก้อนแรก 100,000 บาท แต่จะลง ในเอกสาร การเซ็นสัญญา 120,000 บาท แต่ได้เงินมาจริงๆจะหักค่าเปอร์เซ็นต์ อื่นๆอีก ได้รับเงินจริงแค่ 85,000 บาท หลังจากนั้นทางบริษัทก็จะให้ ส่งดอกเบี้ย ทั้งต้นและดอก รวม 5,000 บาท ทุกวัน แล้วก็จะส่งพนักงาน เข้ามาหาทุกวัน ทั้งหมด 48 คน เป็นเครือข่ายบริษัทเดียวกันซึ่งจากลักษณะดังกล่าว

เหมือนการที่เอาเงินตน มาให้ กู้อีกที ไม่ได้เงินที่กู้มาแถมยังต้องเสียเงินออกไปอีก จึงทำให้ส่งไม่ไหว ตลอดระยะเวลา 2 เดือน จ่ายเงินไปทั้งหมด 230,000 บาท ทำให้ตนจ่ายไม่ไหว ทางบริษัทเงินกู้ดังกล่าวจึงได้ส่งพนักงานประมาณ 15 คน มาล้อมบ้าน ข่มขู่ ว่าจะกระทืบ จึงได้ไปแจ้งความที่ สภ.แห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ แล้วตำรวจก็มาตรวจดู เขาก็หนีหลับหมด พอตำรวจกลับ แก๊งกลุ่มนั้นก็วนกลับมาอีก จึงให้ตำรวจที่รู้จักมานอนเฝ้า แต่เขาก็ไม่กลัว ตนจึงได้มาปรึกษาทนายแล้วมาแจ้งความที่กองปราบฯ

ดร.เกรียงศักดิ์ กล่าวต่อว่า ตนมองว่าขบวนการนี้น่ากลัว ทำงานกันเหมือนมาเฟีย แม้กระทั่งแจ้งความไว้ ยังคดีไม่คืบ ขนาดขบวนการนี้โพสต์ใน Facebook ด้วยข้อความที่น่าจะหลอกหลวงยังไม่มีใครจัดการได้ ซึ่งผิด พ.ร.บ.ดอกเบี้ย อั้งยี่ช่องโจร สมคบคิดเกินกว่า 5 คนขึ้นไป คิดว่าน่าจะมีเหยื่ออีก ที่ไม่กล้าออกมา ขบวนการนี้ ใช้วิธี ในการไปหลอกลวงบุคคลที่กำลังลำบาก ตนจึงมีความสงสัยว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบเรื่องนี้หรือไม่ ทำไมถึงไม่ดำเนินการ กับ กระบวนการเหล่านี้ ตนจะทำคดีนี้ให้ถึงที่สุด และถ้าใครที่ตกเป็นเหยื่อก็สามารถเดินทางมาหาตนได้ จะช่วยเต็มที่ และจะสืบหาผู้ที่อยู่เบื้องหลังว่ามีตำรวจเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่ ถ้ามีก็จะดำเนินการให้เต็มที่ โดยไม่มีละเว้น

อยากฝากถึงประชาชนทุกคน อย่าลงเชื่อ เพราะจากลักษณะการโพสต์ข้อความเชิญชวนก็ไม่น่าเชื่อถือแล้ว ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะมีใครให้กู้เงินถึง 100 ล้านบาท ไม่มีอยู่จริงเขาแค่หลอกให้หลงเชื่อ อย่างไรก็ตาม เบื้องต้น ผู้เสียหายเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ปอศ. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับแก๊งเงินกู้เหล่านี้ตามกฏหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ