ลุยกวาดล้างสินค้าปลอม 4 จังหวัดภาคอีสาน ยึดของกลางกว่าพันชิ้น ความเสียหายกว่า 2 ล้านบาท

ลุยกวาดล้างสินค้าปลอม 4 จังหวัดภาคอีสาน ยึดของกลางกว่าพันชิ้น ความเสียหายกว่า 2 ล้านบาท

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับ อาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมนำโดย เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปอศ., เจ้าหน้าที่กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ และตัวแทนผู้ปกป้องสิทธิทรัพย์สินทางปัญญาของแบรนด์สินค้า ได้ร่วมกันตรวจค้น จำนวน 6 จุด ในพื้นที่ 4 จังหวัด ดังนี้ 1.นครราชสีมา 2.ขอนแก่น 3.อุดรธานี 4.สกลนคร จับกุมผู้ต้องหา 5 ราย ดำเนินคดีในฐานความผิด “เสนอจำหน่าย/มีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอม เครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนแล้วในราชอาณาจักร” ซึ่งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติ เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 พร้อมตรวจยึดของกลาง รวม 1,785 ชิ้น มูลค่าความเสียหายมากว่า 2 ล้านบาท โดยสินค้า ที่ตรวจยึดเป็นสินค้าปลอมเครื่องหมายการค้าหลากหลายประเภท อาทิ สินค้าอุปโภคบริโภค อะไหล่ยานยนต์ ยี่ห้อดัง ลำโพงยี่ห้อดัง เสื้อผ้า กระเป๋า และรองเท้าแบรนด์เนม ยี่ห้อดัง พฤติการณ์ ด้วยเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2568 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับ อาชญากรรมทางเศรษฐกิจได้ร่วมกันประชุมหารือกับ กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ จนได้มีบันทึกความตกลงว่าด้วยความร่วมมือปฏิบัติงานการป้องกันการจำหน่ายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อปกป้องคุ้มครองพิทักษ์สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและขจัดปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ให้ลดน้อย

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปอศ. ได้ผนึกกำลังร่วมกับ เจ้าหน้าที่กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ เปิดปฏิบัติการเชิงรุกลงพื้นที่ภาคอีสานกวาดล้างแหล่งค้า สินค้าปลอมเครื่องหมาย การค้าที่แพร่ระบาดในพื้นที่ โดยมุ่งเป้าไปยังพื้นที่เฝ้าระวัง ไม่ว่าจะเป็น อาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ตลาดค้าส่งค้าปลีกรายใหญ่ประจำจังหวัด รวมถึงร้านค้าที่จำหน่าย ทั้งหน้าร้านและผ่านช่องทางออนไลน์

โดยได้ขอศาลอนุมัติหมายค้นเข้าตรวจค้นสถานที่กักเก็บสินค้าปลอม จำนวน 6 จุด สามารถจับกุม ผู้ต้องหาได้ 5 ราย พร้อมตรวจยึดสินค้า รวมจำนวนกว่า 1,785 ชิ้น คิดเป็นมูลค่าความเสียหายมากว่า 2 ล้านบาท จากการตรวจสอบเป็นสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานและปลอมเครื่องหมายการค้า จึงได้ร่วมกัน ตรวจยึดสินค้าดังกล่าว พร้อมกับจับกุมบุคคลที่เป็นเจ้าของสินค้าดังกล่าว นำตัวพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจในพื้นที่รับผิดชอบเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ