
หนุ่มหัวขโมยเสียชีวิตปริศนา ถูกไฟช็อตโยนร่างทิ้งริมถนน ตำรวจเร่งคลี่คดี ล่าคนร้าย
เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 12 มิ.ย. 2568 พ.ต.ต.อภินันท์ พลศร สว. (สอบสวน) สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งว่ามีเหตุพบศพผู้เสียชีวิต ถูกไฟซ๊อต นอนแน่นิ่งในพงหญ้าริมถนนสายศรีมงคล ข้างกำแพง รร.ปากพูน ม.8 ต.ปากพูน อ.เมืองนครศรีธรรมราช หลังรับแจ้ง จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.กิตติชัย ไกรนรา ผกก.,พ.ต.ท.นรากร เอียดแก้ว รอง ผกก.ป.,พ.ต.ท.วรเศรษฐ์ ศรีใหม่ รอง ผกก.สส. และเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจตำบลปากพูนและตำรวจชุดสืบสวน, แพทย์เวร รพ.มหาราชนครศรีธรรมราชและจนท.มูลนิธิใต้เต๊กตึ้ง ไปที่เกิดเหตุเพื่อร่วมทำการชันสูตรพลิกศพ
ที่เกิดเหตุ พบศพผู้เสียชีวิตนอนคว่ำหน้าพงหญ้าริมถนน สวมกางเกงขาสั้นตัวเดียว ไม่สวมเสื้อ มีบาดแผลถูกไฟฟ้าซ๊อตเป็นรอยไหม้เกรียม บริเวรด้านแผ่นหลัง 1 แผล และบริเวณด้านหน้าพบแผลรอยไฟฟ้าซ๊อตไหม้เป็นแผลยาวบริเวณใบหน้า 1 แผล และรอยฟกช้ำที่บริเวณใบหน้าคล้ายถูกทุบตี 1 แผล เสียชีวิตมาแล้วประมาณ6-8 ชม. และพบกางเกงแบบผู้ใหญ่วางที่ปลายเท้า 1 ตัว ซึ่งยังไม่ทราบว่าเป็นกางเกงของใคร อยู่ระหว่างการตรวจสอบ โดยญาติยืนยันว่าไม่ใช่ของญาติ
จาการสอบสวนทราบชือผู้เสียชีวิต คือ นายจิรกิตติ์ อายุ 22 ปี บ้านอยู่ ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช บริเวณที่เกิดเหตุบริเวณพงหญ้า พบรอยล้อรถยนต์กระบะไม่ทราบชนิดและยี่ห้อเป็นทางยาวประมาณ 50 เมตร คาดว่าเป็นรถของคนร้ายที่นำศพผู้เสียชีวิตมาโยนทิ้งบริเวณดังกล่าว
จากการสอบสวนปากคำนายรุ่งโรจน์ อักษรแก้ว อายุ 51 ปี อาชีพออกเรือทำประมง ให้การว่า ตนยอมรับว่า ลูกชายของตนมีพฤติกรรมเสพยาเสพติดและมีนิสัยชอบลักเล็กขโมยน้อยทรัพย์สินต่างๆ ของชาวบ้านในพื้นที่มานานแล้ว และเคยถูกจับกุมมาหลายครั้ง จนเป็นที่เอือมระอาของชาวบ้าน โดยลูกชายจะมีสติไม่ค่อยดีด้วย ได้พาไปรักษาแล้วก็ยังไม่หาย ซึ่งตนก็ได้สั่งสอนตักเตือนลูกชายให้เลิกพฤติกรรมลักเล็กขโมยน้อยของชาวบ้านและเลิกยาเสพติดก็ยังไม่ค่อยเชื่อฟัง
ก่อนเกิดเหตุ ตนเพิ่งกลับจากออกเรือประมง กำลังจะกลับเข้าบ้านก็ได้รับแจ้งจากพระวัดศรีมงคลที่เดินบิณบาตรว่า เมือเวลาประมาณ 04.00 น.-05.00 น.เห็นลูกชายยืนเดินวนเวียนบริเวณที่เกิดเหตุ ด้วยความเป็นห่วงจึงออกมาดู ก็พบว่าลูกชายตนถูกไฟซ๊อตเสียชีวิตคาถนนดังกล่าว โดยคาดว่าลูกชายของตนอาจจะเข้าไปลักทรัพย์ของเจ้าทรัพย์บ้านหลังใดหลังหนึ่งในหมู่บ้านและถูกเจ้าทรัพย์วางดักไฟฟ้าซ๊อตกับดักไว้ ทำให้ลูกชายถูกไฟซ๊อตเสียชีวิตคาที่ ก่อนที่จะถูกเจ้าของบ้านคนดังกล่าวรุมซ้อมแล้วนำศพของลูกชายตน ขึ้นรถยนต์กระบะมาโยนทิ้งเพื่ออำพรางคดีก็ได้ ส่วนกรณีที่พระภิกษุ เห็นลูกชายตนเดินวนเวียนที่เกิดเหตุตอนเช้ามืด คาดว่าน่าจะเป็นดวงวิญญาณของลูกชายตนที่ยังวนเวียนในที่เกิดเหตุด้วยความเป็นห่วงก็ได้
ด้าน นส.นัชชารี อักษรแก้ว อายุ 19 ปี น้องสาวผู้เสียชีวิต เผยว่า นายต้นพี่ชายตนอาศัยอยู่กับตน 2 คน ที่บ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้าน ส่วนพ่อออกไปออกเรือประมงกลางทะเลเพิ่งกลับมาเช้านี้ โดยล่าสุด ตอนเที่ยงคืนที่ผ่านมา พี่ชายตนยังอยู่ในบ้าน แต่ไม่รู้ว่าออกจากบ้านไปตอนไหน มาทราบอีกทีก็พบเป็นศพแล้ว ซึ่งตนก็ยอมรับว่า พี่ชายของตนชอบลักเล็กขโมยน้อย แม้จะเตือนก็ไม่ฟัง
อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจชุดสายตรวจตำบลปากพูนและตำรวจชุดสืบสวน อยู่ระหว่างการตรวจสอบกล้องวงจรปิดและหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ต่อไป ซึ่งเป็นฆาตกรรมที่โหดเหี้ยม แม้ว่าผู้เสียชีวิตจะเป็นหัวขโมยและชอบเสพยาก็ตาม
ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครศรีธรรมราช รายงาน