
หญิงป่วยหนักสิ้นใจที่ธนาคาร หลังเจ้าหน้าที่ยืนกราน เจ้าของบัญชี ต้องมาถอนเงินด้วยตัวเอง
วันที่ 16 พฤษภาคม 2568 เว็บไซต์ Soha เผยว่า มีเรื่องราวดราม่าร้อนแรงบนสังคมออนไลน์ของจีน โดยธนาคารแห่งหนึ่งตกเป็นประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้หญิงรายหนึ่งต้องสิ้นลมหายใจลงอย่างน่าสลดที่ธนาคาร ภายหลังจากทางเจ้าหน้าที่ของธนาคารแจ้งว่า เธอผู้เป็นเจ้าของบัญชีต้องมาถอนเงินด้วยเองเท่านั้น ทั้งที่เธอกำลังป่วยหนัก
ตามรายงานของสื่อท้องถิ่นเผยว่า เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ชายชื่อสกุลเผิง จากมณฑลหูหนาน ประเทศจีน ได้โพสต์เรื่องราวผ่านทางชุมชนออนไลน์ด้วยความโกรธแค้น กล่าวหาว่า ระบบการจัดการและดำเนินการของธนาคารการเกษตรแห่งประเทศจีน สาขาเขตซือเฟิง เมืองจูโจว เป็นสาเหตุที่ทำให้ป้าของเขาซึ่งกำลังป่วยหนัก ไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที จนกระทั่งเสียชีวิตในที่สุด
โดยเผิงเผยว่า ป้าของเขาป่วยด้วยโรคเรื้อรังหลายชนิดมาเป็นเวลานาน จนเมื่อไม่นานมานี้ เธอเกิดอาการสโตรก ประสบภาวะสมองขาดเลือด จึงได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลกลางเมืองจูโจว ในมณฑลหูหนาน เธอจึงได้ให้ลูกสาวของเธอ ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของเผิง นำบัตรประชาชนพร้อมสมุดบัญชีเงินฝากไปที่ธนาคารดังกล่าวเพื่อถอนเงินจำนวน 50,000 หยวน (ราว 231,000 บาท) เพื่อมาชำระค่ารักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลแห่งแรก ก่อนที่จะสามารถส่งเธอไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลอีกแห่งได้
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ธนาคารแห่งนั้นปฏิเสธไม่ยอมให้ลูกสาวป้าของเผิงถอนเงิน โดยยืนยันว่าตามกฎระเบียบของทางธนาคาร ผู้เป็นเจ้าของบัญชีตัวจริงเท่านั้น ถึงจะมีสิทธิ์ถอนเงินจากบัญชีได้ นั่นหมายความว่า ป้าของเผิงต้องไปถอนเงินที่ธนาคารด้วยตัวเอง
เผิงเผยว่า ลูกสาวป้าได้แจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ธนาคารทราบอย่างชัดเจนว่า แม่ของเธอป่วยหนักและไม่สามารถเดินทางมาที่ธนาคารได้ แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ยังยืนกรานเช่นเดิมว่า เจ้าของเงินฝากจะต้องมาเป็นผู้ถอนเงินด้วยตัวเอง
เมื่อไม่มีทางเลือก ทางครอบครัวป้าของเผิงจึงพาเธอนั่งรถเข็นผู้ป่วยมาที่ธนาคารเพื่อดำเนินการถอนเงิน อย่างไรก็ตาม ทางธนาคารแจ้งว่าต้องดำเดินการยกเลิกบัญชีเงินฝากประจำ ถึงถอนเงินจำนวนดังกล่าวได้ และใช้เวลาดำเนินการถึง 2 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลาประมาณ 16.00 น. จนเกือบ 18.00 น. ก็ยังไม่แล้วเสร็จ
ในที่สุดจึงเกิดภาพสุดเศร้าสลดอย่างที่สุด เมื่อป้าของเผิงได้สิ้นใจจากไปในระหว่างรอเงินของเธออยู่ที่หน้าประตูธนาคาร โดยเจ้าหน้าที่แพทย์ของหน่วยฉุกเฉินได้รับแจ้งและมาถึงที่ธนาคาร ก่อนจะยืนยันการเสียชีวิตของเธอ
เรื่องราวนี้กลายเป็นประเด็นร้อนแรงและถูกวิจารณ์อย่างดุเดือด ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ธนาคารสาขาดังกล่าว ได้เผยกับสื่อว่า สาเหตุที่ใช้เวลานานเนื่องจาก หญิงสูงวัยเจ้าของบัญชีต้องเข้ารับการยืนยันตัวตนผ่านระบบจดจำใบหน้า แต่เกิดความล้มเหลว เนื่องจากเธออ่อนแรงเกินกว่าจะกระพริบตา หรือก้มศีรษะได้ตามขั้นตอนที่กำหนด
ด้านเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐของเมืองจูโจว เผยว่าได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว โดยในวันเกิดเหตุตำรวจได้เข้ามาดำเนินการ และยืนยันว่าหญิงสูงวัยรายนี้เสียชีวิตจากอาการป่วยกะทันหัน ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการสอบสวน ส่วนตัวแทนทางธนาคารได้กล่าวว่า เราขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อผู้เสียชีวิต และสัญญาว่าจะช่วยเหลือครอบครัวในการแก้ไขปัญหาต่อไป ส่วนเรื่องคดีอยู่ระหว่างดำเนินการ ไม่สะดวกที่จะเปิดเผยรายละเอียด
ชาวเน็ตต่างโกรธแค้นต่อวิธีดำเนินการจัดการของธนาคารอันนำไปสู่การเสียชีวิต โดยกล่าวทำนองว่า ธนาคารกำหนดให้ลูกค้าต้องมาถอนเงินด้วยตนเองโดยคำนึงถึงความปลอดภัย แต่ระเบียบข้อบังคับไม่มีมนุษยธรรมเลยเหรอ เมื่อลูกค้าเป็นผู้สูงอายุที่ป่วยหนัก ธนาคารไม่มีวิธียืดหยุ่นหรือรับมือกับสถานการณ์ได้เลยเหรอ ปล่อยให้ลูกค้าต้องตายที่หน้าธนาคารเช่นนี้ เป็นภาพที่น่าอนาถใจมาก
ทั้งนี้ ตามรายงานระบุว่า ธนาคารหลายแห่งในประเทศจีน กำหนดให้ต้องใช้เทคโนโลยีการจดจำใบหน้าในการประมวลผลเพื่อการถอนเงิน ก่อนหน้านี้ก็เคยเกิดเหตุเช่นเดียวกัน ครอบครัวต้องเข็นผู้สูงอายุไปที่ธนาคารเพื่อถอนเงิน โดยมีชายรายหนึ่งเสียชีวิตในปี 2566 และอีกกรณีเมื่อปีที่ผ่านมา