เด็กหญิงวัย 13 เหยื่อถูกรุมทำร้าย เปิดใจ ถูกเรียกให้ออกไปเคลียร์ หลังเพื่อนมีปัญหา แต่พอไปถึงก็โดนรุมทำร้ายทันที ไม่มีการพูดคุยเหมือนที่บอก

เด็กหญิงวัย 13 เหยื่อถูกรุมทำร้าย เปิดใจ ถูกเรียกให้ออกไปเคลียร์ หลังเพื่อนมีปัญหา แต่พอไปถึงก็โดนรุมทำร้ายทันที ไม่มีการพูดคุยเหมือนที่บอก

จากกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปเหตุการณ์เด็กสาวอายุ 13 ปี ถูกกลุ่มเยาวชนหญิงรุมทำร้ายร่างกาย ทั้งตบ แตะ และถีบใบหน้า นอกจากนี้ ยังปรากฏภาพเยาวชนชาย ใช้รองเท้าตี-ตบ ที่ใบหน้าจนได้รับบาดเจ็บ ที่ใบหน้าริมฝีปาก ซึ่งสื่อต่าง ๆ ได้ตั้งชื่อให้ว่าเป็นแก๊งทะลุถุงอยุธยา อย่างไรก็ตาม หลังจากคลิปดังกล่าวได้เผยแพร่ออกไปแล้วนั้น ก็กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานา หลายคนไม่พอใจที่มีการมารุมทำร้ายคนเพียงคนเดียว และยังเยาวชนชายที่กล้าทำร้ายผู้หญิงอีกด้วย

ล่าสุด จากการสอบถาม ด.ญ.แก้ม อายุ 13 ปี เหยื่อที่ถูกทำร้าย ที่ยังคงมีร่อยบาดเจ็บที่บริเวณเบ้าตา และริมฝีปาก เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ก่อนหน้านี้กลุ่มเพื่อนของตนมีปัญหาทะลาะวิวาทกับกลุ่มเยาวชนหญิง และเยาวชนที่เป็นสาวประเภทสอง อายุระหว่าง 15-17 ปี ที่ปรากฏในคลิป ซึ่งตนไม่ได้มีปัญหาด้วย

ก่อนเกิดเรื่อง หนึ่งในกลุ่มเยาวชนหญิงได้ทักมาหาตน พร้อมกับนัดหมายให้ตน ออกไปหาที่ประตูระบายน้ำ ให้ตนเป็นคนเคลียร์ปัญหา ระหว่างเพื่อนกับกลุ่มเยาวชน ตนจึงได้ออกไป พร้อมกับเพื่อนที่มีปัญหากันกลุ่มเยาวชนหญิง พอไปถึง ยังไม่ทันได้มีการพูดคุยกัน เยาวชนหญิงที่เป็นสาวประเภทสอง ดึงตนเองลงจากรถจยย. แล้วตบที่ใบหน้า จากนั้นมีเยาวชนหญิงคนอื่นมาทำรุมทำร้ายตนเอง รวมถึงเยาวชนชายที่ปรากฏในคลิปด้วย

ทางด้าน น.ส.ชุติมา อาของด.ญ.แก้ม กล่าวว่า ตกใจมากที่เห็นคลิปหลานสาวถูกทำร้าย จึงรีบเดินทางมาทันทีและพาหลานไปแจ้งความ ซึ่งจากการพูดคุยกับหลาน ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือเคยทะลาะวิวาทกับกลุ่มเยาวชนที่ก่อเหตุเลย มีเพียงเพื่อนของหลานสาวที่มีปัญหา แต่เพื่อนของหลานสาวไปบอกกับกลุ่มเยาวชนที่มีเรื่องทะเลาวิวาทกันว่า จะให้หลานสาวเป็นคนมาเคลียร์

อย่างไรก็ตาม เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งตัวด.ญ.แก้มไปตรวจร่างกายอย่างละเอียดแล้ว และสอบปากคำพร้อมรวบรวมพยานหลักฐาน จากคลิปวิดีโอที่เผยแพร่ในโซเชียล จนสามารถทราบตัวผู้ก่อเหตุที่ปรากฏในคลิปได้ทั้งหมดแล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเข้าสู่กระบวนการสอบสวนตามขั้นตอนของกฎหมายเยาวชน

เนื่องจากทั้งผู้เสียหายและผู้ก่อเหตุเป็นเยาวชน การสอบสวนจึงต้องดำเนินการภายใต้ระบบ สหวิชาชีพ โดยมีนักสังคมสงเคราะห์ นักจิตวิทยา เจ้าหน้าที่คุ้มครองเด็ก และพนักงานสอบสวนร่วมกันทำงานอย่างใกล้ชิด เพื่อคุ้มครองสิทธิ์ของทุกฝ่ายตามหลักกระบวนการยุติธรรม

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ