เมียหลวง ร้อง ผัวไล่ออกจากบ้าน ต้องไปเช่าห้องอยู่ แถมโอน 100 ล้านให้ลูกเมียน้อย

เมียหลวง ร้อง ผัวไล่ออกจากบ้าน ต้องไปเช่าห้องอยู่ แถมโอน 100 ล้านให้ลูกเมียน้อย

เมื่อวันที่ 24 ก.พ.2568  เจ๊อ้อย อายุ 64 ปี เจ้าของโรงงานกระดาษพันบุหรี่และผลิตยาเส้น ขอความเป็นธรรมหลังจากถูกสามีชื่อ เฮีย ป. อายุ 61 ปี สามีที่จดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมายไล่ออกจากบ้าน ต้องหนีไปอยู่บ้านเช่า และสามีคนนี้ยังฮุบโรงงานที่พากันก่อร่างสร้างตัวตั้งแต่แต่งงานมาตั้งแต่ปี 2528 จนถึงตอนนี้ก็ 40 ปี ความรักต้องพังทลายเพราะสามีไปมีผู้หญิงใหม่และพาเข้าโรงงาน หาเรื่องทะเลาะและเคยทำร้ายลูก ๆ ทั้ง 3 คน ตอนนี้ต้องหนีออกมาอยู่บ้านเช่า และทำเรื่องฟ้องหย่า อยากให้ทรัพย์สินโรงงานที่เป็นสินสมรสตกมาเป็นของลูก ๆ บ้าง แต่ตอนนี้ไม่เหลืออะไรแล้ว

พร้อมกับคลิปวิดีโอที่ลูกสาวคนเล็กถูกพ่อแท้ ๆ ทำร้ายร่างกาย เนื่องจากไปมีเรื่องมีราวกับหญิงสาวที่คาดว่าจะเป็นเมียน้อยอีกคนของพ่อ พ่อเลยโมโหทำร้ายร่างกายจนหัวโน แถมยังไม่พอ พ่อขับรถแบคโฮเล็กมาพังบ้าน เนื่องจากไม่พอใจลูกสาวที่ไปต่อว่าหญิงคนสนิทพร้อมบอกลูกสาวว่า กูสร้างได้ก็ทำลายได้ และมีภาพบ้านที่ถูกรถแบคโฮพังทำลายจนเป็นรู เจ๊อ้อย เปิดเผยว่า แต่ก่อนตนทำงานอยู่ที่รัฐวิสาหกิจฯชื่อดังแห่งหนึ่ง คบกับสามีชื่อเฮีย ป คบกันมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2528 ประมาณปี 2533 ได้จดทะเบียนสมรส หวังเป็นครอบครัวที่อบอุ่น จากนั้นตนมีแนวคิดหาทำธุรกิจเพิ่มเพื่อสร้างครอบครัว จึงได้นำเงินโบนัสที่ได้จากการทำงานและเงินเก็บหอมรอมริบทำโรงงานเกี่ยวกับกระดาษพันยาเส้นและยาเส้นยี่ห้อหนึ่ง ทำมาเรื่อย ๆ ธุรกิจไปด้วยดี มีลูกกับเฮีย ป 3 คน ตอนแรก ๆ ก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ระยะหลังสามีก็ออกลายเริ่มเจ้าชู้ มีผู้หญิงอีกหลายคน ตอนนั้นก็ทำใจคิดว่าเขาจะเปลี่ยนได้เพราะมีลูกแล้ว แต่ก็ยังเหมือนเดิม

มาระยะหลังเริ่มหนักขึ้น เอาภรรยาน้อยมาอยู่ในบ้านที่เป็นที่ตั้งโรงงานด้วย ภรรยามีหลายคนด้วย หนักสุดทำร้ายภรรยาและลูก ๆ เหตุไม่พอใจที่ลูก ๆ ไปด่าภรรยาของเขาชื่อ แหม่ม คนเป็นแม่เสียใจมาก แต่ที่เสียใจหนักคือทรัพย์สินทั้งบ้านและที่ดินที่สร้างมาด้วยกันหลาย ๆ แปลง ตอนนี้เขาโอนไปให้ลูกนอกสมรสเกือบหมดแล้ว คิดเป็นมูลค่าทั้งที่ดินและบ้านในตัวเมือง จ.อุดรธานี คร่าว ๆ ประมาณ 100 ล้านบาท ไม่คิดว่าชีวิตจะเป็นแบบนี้ อุตส่าห์ก่อร่างสร้างตัวสู้ชีวิตมาด้วยกัน หวังจะให้ลูก ๆ สืบทอดงานต่อพ่อและแม่ บั้นปลายชีวิตครอบครัวมีความสุข แต่ตอนนี้ถูกไล่ออกจากบ้านตัวเองต้องหนีออกมาอยู่บ้านเช่า

ด้าน ลูกชาย กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นตนเข้าใจพ่อได้ว่าพ่อเจ้าชู้ แต่ไม่น่าจะมาทำกับแม่ ค้ำจุนมาตั้งแต่เริ่มต้นชีวิตคนแรกแบบนี้ เท่าที่ทราบ แม่และพ่อก่อร่างสร้างตัวมาด้วยกันจนมีธุรกิจเพื่อครอบครัว แต่พ่อดันเจ้าชู้เยอะไปหน่อย เอาทรัพย์สินที่พ่อและแม่ทำมาด้วยกันโอนไปเป็นชื่อของลูกของภรรยานอกสมรสอีกคน และทราบอีกว่า พ่อจดทะเบียนสมรสซ้อนด้วย โดยที่พ่อไปทำเรื่องโอนทรัพย์สินให้ลูก ๆ กับภรรยานอกสมรส แม่ไม่รู้เรื่องเลย แต่อ้างว่าหย่ากับภรรยาอีกคน เป็นคนโสดแล้วเอาไปยื่นเจ้าหน้าที่ จนสามารถโอนทรัพย์สินได้เกือบหมด

ส่วน ลูกสาวอีกคน กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนและน้องถูกพ่อทำร้ายมาตลอด ทั้งทำร้ายร่างกายหาว่าไปหาเรื่องภรรยาคนอื่นของพ่อ เราเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ตอนนี้แม่กำลังฟ้องหย่าและเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับตัวแม่ เราอยากให้แม่มีความสุขในบั้นปลายชีวิต แต่ไม่คิดว่าแม่จะเป็นแบบนี้ เปย์เซลล์สาว ซื้อรถยนต์ 8 คัน ลูก ๆ ทั้ง 3 คนประสานเสียงว่า เรื่องราวของพ่อมีเยอะ พูดไปก็เหมือนขายพ่อ แต่ตอนนี้เราอยู่ข้างแม่ มีหลายเรื่องหลายราว

อีกเรื่องคือพ่อเคยเปย์กับเซลล์ขายรถยนต์ไฟฟ้าเพราะต้องการได้ผู้หญิงคนนั้นมาเป็นภรรยาอีกคน ลงทุนซื้อรถ จำได้ว่า 8 คันเพื่อให้สาวคนนั้นได้ยอด สุดท้ายก็ได้มาเป็นภรรยาจนได้บอกตรง ๆ ตอนนี้พ่อมีภรรยาไม่ต่ำกว่า 10 คน แต่อยากจะบอกพ่อว่า เห็นใจแม่คนที่เป็นภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่สร้างชีวิตมาด้วยกัน ไม่น่าจะทำแบบนี้ ตอนนี้แม่ทำเรื่องหย่าและยื่นฟ้องศาลเพื่อให้ได้มาทรัพย์สินในสมรสกลับคืนมา พวกเราอยากเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับแม่ ขณะที่ ผู้สื่อข่าวโทรศัพท์ไปหา เฮีย ป เพื่อขอไปพูดคุยกับเรื่องที่เกิดขึ้น ปรากฏว่า เฮีย ป รับสาย ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีกับเจ๊อ้อย เฮีย ป ก็บอกว่า เป็นเรื่องของครอบครัว จากนั้นก็ตัดสายไปทันที

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ