วันที่ 17 ธันวาคม 2568 gulfnews รายงานว่า ทำเนียบขาวประกาศเมื่อวันอังคารว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ได้ขยายมาตรการแบนการเดินทางเข้าสหรัฐฯ อย่างมีนัยสำคัญ โดยห้ามพลเมืองจากอีก 7 ประเทศเพิ่มเติม เดินทางเข้าสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมเป็นต้นไป
ในแถลงการณ์ ทำเนียบขาวระบุว่า ทรัมป์ได้ลงนามในประกาศ (proclamation) ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อ “ขยายและเสริมความเข้มงวดของข้อจำกัดในการเดินทางเข้าเมือง” ต่อประเทศที่ถูกมองว่ามี “ข้อบกพร่องเรื้อรังและร้ายแรง” ในด้านการคัดกรอง การตรวจสอบประวัติ และการแบ่งปันข้อมูล
ทั้งนี้ ทรัมป์อ้างถึงเหตุผลด้านความมั่นคงแห่งชาติและความปลอดภัยสาธารณะเป็นหลัก
ภายใต้คำสั่งใหม่ มาตรการแบนการเดินทางแบบเต็มรูปแบบจะมีผลกับพลเมืองจากประเทศต่อไปนี้
ประเทศที่ถูกเพิ่มใหม่ภายใต้มาตรการแบนเต็มรูปแบบ
บูร์กินาฟาโซ
มาลี
ไนเจอร์
ซูดานใต้
ซีเรีย
เซียร์ราลีโอน
ลาว ก็ไม่รอด!
ประกาศดังกล่าวยังห้ามการเดินทางเข้าสหรัฐฯ ของบุคคลที่ใช้เอกสารการเดินทางซึ่งออกโดยหน่วยงานปกครองปาเลสไตน์ (Palestinian Authority) ด้วย
ก่อนหน้านี้ ลาวและเซียร์ราลีโอนอยู่ภายใต้มาตรการจำกัดการเดินทางเพียงบางส่วน แต่คำสั่งฉบับใหม่นี้ได้ยกระดับทั้งสองประเทศให้ถูกแบนแบบสมบูรณ์
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังได้กำหนดมาตรการจำกัดการเดินทางและข้อจำกัดด้านวีซ่าแบบบางส่วนต่ออีก 15 ประเทศเพิ่มเติม โดยทำเนียบขาวยังไม่เปิดเผยรายชื่อทั้งหมดในทันที ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์ส
ประกาศฉบับนี้ยังคงบังคับใช้มาตรการแบนและข้อจำกัดในการเดินทางต่อพลเมืองจาก 12 ประเทศที่ถูกจัดเป็นประเทศความเสี่ยงสูงเดิม ซึ่งกำหนดไว้ภายใต้ประกาศเลขที่ 10949 ได้แก่
อัฟกานิสถาน
เมียนมา
ชาด
สาธารณรัฐคองโก
อิเควทอเรียลกินี
เอริเทรีย
เฮติ
อิหร่าน
ลิเบีย
โซมาเลีย
ซูดาน
เยเมน
ทั้งนี้ ประกาศดังกล่าวมีข้อยกเว้นสำหรับผู้พำนักถาวรโดยชอบด้วยกฎหมาย ผู้ถือวีซ่าที่ได้รับอนุญาตแล้ว วีซ่าบางประเภท เช่น นักกีฬาและนักการทูต รวมถึงบุคคลที่การเดินทางเข้าสหรัฐฯ ของพวกเขาเป็นไปเพื่อประโยชน์แห่งชาติของสหรัฐฯ
เรียบเรียง สยามนิวส์