วันที่ 9 พ.ย. 2568 เว็บไซต์ต่างประเทศ NEW YORK POST ได้มีการรายงานเหตุการณ์สุดสลดที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ เมื่อคุณแม่ลูกสี่วัย 32 ปี ถูกยิงเสียชีวิตหน้าบ้าน หลังรับงานทำความสะอาดแต่ไปผิดหลัง ตำรวจเผยถูกยิงทะลุประตู หัวกระสุนฝังศีรษะต่อหน้าสามี ขณะเธอพยายามไขกุญแจเข้าไป เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในเมืองวิทส์ทาวน์ รัฐอินดีแอนา เมื่อเช้าวันพุธ (5 พ.ย.) ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น
เมื่อมาเรีย ฟลอรินดา ริออส เปเรซและสามี มาถึงบ้านหลังหนึ่งเพื่อมาทำความสะอาด โดยทั้งคู่ตรวจสอบที่อยู่ซ้ำและวนหาหลายรอบเพื่อให้แน่ใจว่าไม่ผิด แต่เมื่อพยายามใช้กุญแจที่ได้รับมาไขประตูบ้าน ก็เกิดเสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด กระสุนพุ่งทะลุประตูหน้าบ้านเข้าที่ศีรษะของเปเรซ เธอล้มลงทันทีต่อหน้าสามีที่พยายามเข้าไปประคองและปลอบภรรยา ขณะที่เลือดไหลนองพื้น

ทางด้านสามี เผยทั้งน้ำตาว่า เธอยังไม่ได้เสียบกุญแจด้วยซ้ำ ตอนนั้นผมแค่ได้ยินเสียงปัง แล้วเห็นเธอถอยหลัง สองก้าวก่อนล้มลง ผมพยายามบอกว่า ไม่เป็นไร แต่เห็นเลือดไหลออกมาไม่หยุด
ขณะที่ ทางตำรวจระบุในแถลงการณ์ว่า ทางเราได้รับแจ้งเหตุในเวลาไล่เลี่ยกัน โดยในตอนแรกเจ้าของบ้านโทรแจ้งว่าเกิด การบุกรุก แต่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วพบว่า ไม่ใช่การพยายามงัดแงะบ้านแต่อย่างใด พร้อมกล่าวแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต
ขณะเดียวกัน แพทย์นิติเวชชี้ว่า เปเรซเสียชีวิตจากบาดแผลกระสุนปืนที่ศีรษะ ส่วนผู้ก่อเหตุยังไม่ถูกจับกุม โดยสำนักงานอัยการเทศมณฑลบุล ระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นคดีฆาตกรรม และจะพิจารณาว่าควรตั้งข้อหาหรือไม่ในสัปดาห์หน้า

อย่างไรก็ตาม รัฐอินดีแอนามีกฎหมายป้องกันตนเองในเคหสถาน (Stand Your Ground) ที่อนุญาตให้ประชาชนใช้กำลังถึงขั้นรุนแรงได้ หากเชื่อว่าจำเป็นเพื่อป้องกันการบาดเจ็บสาหัสหรือการบุกรุกบ้าน แต่ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ระบุว่ากรณีนี้เป็น คดีซับซ้อน และอยู่ระหว่างการสอบสวนอย่างละเอียด
ขณะที่ด้านสามีผู้เห็นเหตุการณ์ เรียกร้องให้มีการดำเนินคดีกับผู้ยิงภรรยาของเขา พร้อมทั้งบอกกับสื่อว่า เขาไม่ใช่มนุษย์ เขาเป็นสัตว์ เป็นหมา ที่ฆาตกรรมได้อย่างเลือดเย็นแบบนั้น ตอนนี้ผมต้องเป็นทั้งพ่อและแม่ให้ลูกสี่คน ขณะที่คนยิงยังอยู่สบายที่บ้าน