วันที่ 14 ตุลาคม 2568 สำนักข่าว Reuters รายงานว่า นายโมฮัมหมัด ฮาซัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมาเลเซีย แถลงต่อผู้สื่อข่าวที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐอเมริกา จะเดินทางมาร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามข้อตกลงหยุดยิงระหว่างไทยกับกัมพูชา โดยพิธีจะจัดขึ้นระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียนที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ระหว่างวันที่ 26-28 ตุลาคม นี้

ประธานาธิบดีทรัมป์ยังกล่าวว่า เขา ตั้งตารอ การเข้าร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามครั้งสำคัญนี้

เนื่องจากความตึงเครียดบริเวณพื้นที่ชายแดนระหว่างสองประเทศ ซึ่งยังไม่ได้กำหนดเส้นแบ่งอย่างชัดเจนยาวกว่า 817 กิโลเมตร เกิดการสู้รบรุนแรงนาน 5 วันในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา คร่าชีวิตประชาชนอย่างน้อย 48 ราย และทำให้ประชาชนหลายแสนคนต้องอพยพชั่วคราว ถือเป็นเหตุการณ์รุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี

นายโมฮัมหมัด กล่าวว่า ระหว่างการประชุมสุดยอด ASEAN ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26-28 ตุลาคม ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ จะมีการลงนามในแถลงการณ์ที่เรียกว่า ข้อตกลงกัวลาลัมเปอร์ เพื่อสร้างสันติภาพและยุติการสู้รบอย่างยั่งยืน โดยมาเลเซียและสหรัฐฯ จะอำนวยความสะดวกให้เกิดข้อตกลงหยุดยิงที่กว้างขึ้น รวมถึงการถอนอาวุธหนักทั้งหมดออกจากชายแดน

ทั้งนี้ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งดำรงตำแหน่งประธาน ASEAN ในปัจจุบัน ระบุว่า ทรัมป์ จะเข้าร่วมการประชุม แต่ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการจากสหรัฐฯ

ก่อนหน้านี้ มาเลเซียได้เป็นผู้นำเจรจาหยุดยิงเบื้องต้น เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลมาจากความพยายามสร้างสันติภาพอย่างต่อเนื่องของนายอันวาร์ และการโทรศัพท์หารือของทรัมป์กับผู้นำทั้งสองประเทศ

วันที่ 12 ตุลาคม ที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศไทยเปิดเผยว่า รัฐมนตรีต่างประเทศของไทยและกัมพูชาได้พบกันที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ เพื่อหารือเกี่ยวกับการหยุดยิง โดยมีเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และมาเลเซียเข้าร่วมการประชุมด้วย

ในการประชุมสุดยอด East Asia Summit ซึ่งจัดขึ้นควบคู่กับการประชุม ASEAN เดือนนี้ จะมีการออกแถลงการณ์ของประธานการประชุมแทนการออกแถลงการณ์ร่วม โดยนายโมฮัมหมัดระบุว่า สหรัฐฯ คัดค้านการใช้คำว่า ความครอบคลุม (inclusivity) แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม ผู้นำของทั้ง 10 ประเทศสมาชิก ASEAN รวมถึงประเทศคู่ค้าสำคัญอย่าง จีน ญี่ปุ่น รัสเซีย และสหรัฐฯ จะเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ด้วย