เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา เซบาสเตียน เลอคอร์นู นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของฝรั่งเศส แถลงต่อสื่อมวลชนในกรุงปารีสว่า ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เนื่องจากมีเงื่อนไขหลายประการที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการปฏิบัติหน้าที่ และภารกิจดังกล่าวเป็นสิ่งที่ยากลำบาก พร้อมระบุว่าขณะนี้สถานการณ์มีความท้าทายเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

การประกาศดังกล่าวมีขึ้นหลังจากทำเนียบประธานาธิบดีฝรั่งเศสออกแถลงการณ์ยืนยันว่า เอมมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ได้รับหนังสือลาออกของเลอคอร์นูอย่างเป็นทางการแล้ว โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพียง 14 ชั่วโมงหลังจากจัดตั้งคณะรัฐมนตรี ส่งผลให้เลอคอร์นูกลายเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งสั้นที่สุดในประวัติศาสตร์ฝรั่งเศส เพียง 27 วัน และยังไม่ได้แถลงนโยบายต่อหน้ารัฐสภา

เลอคอร์นูได้รับการแต่งตั้งจากมาครงเมื่อวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา ภายหลังฟรองซัว เบย์รู อดีตนายกรัฐมนตรี ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งหลังพ่ายมติไม่ไว้วางใจ ทำให้เลอคอร์นูกลายเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 5 ของฝรั่งเศสในรอบ 2 ปี และเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 4 ของประเทศภายใต้การบริหารของมาครงในรอบไม่ถึง 1 ปี นับตั้งแต่การเลือกตั้งปี 2565 เป็นต้นมา

การตัดสินใจของเลอคอร์นูเกิดขึ้นท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ โดยเฉพาะกรณีการแต่งตั้งอดีตรัฐมนตรีคลังให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหม ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าเป็นบุคคลที่มีส่วนทำให้หนี้สาธารณะของฝรั่งเศสพุ่งสูง โดยในช่วงสิ้นไตรมาสแรกของปีนี้ หนี้สาธารณะของประเทศอยู่ที่ 3.3 ล้านล้านยูโร หรือคิดเป็นประมาณร้อยละ 114 ของจีดีพี ซึ่งจัดอยู่ในระดับสูงเป็นอันดับ 3 ของกลุ่มประเทศที่ใช้เงินสกุลยูโร รองจากกรีซและอิตาลี

หลังจากเลอคอร์นูประกาศลาออก มารีน เลอเปน ผู้นำฝ่ายค้านฝ่ายขวาสุดจากพรรค RN ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ประธานาธิบดีมาครงยุบสภาและจัดการเลือกตั้งใหม่โดยทันที

สถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมืองในครั้งนี้เกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสในปี 2570 ซึ่งคาดว่าจะเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญทางการเมือง เนื่องจากอาจเปิดทางให้พรรคฝ่ายขวาจัดของมารีน เลอเปน ก้าวขึ้นมาบริหารประเทศ ทั้งนี้ หลายพรรคการเมืองต่างเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งก่อนกำหนด ขณะที่บางพรรคต้องการให้มาครงลงจากตำแหน่ง แม้มาครงยืนยันตลอดเวลาว่าจะปฏิบัติหน้าที่จนสิ้นสุดวาระในปี 2570