วันที่ 2 ตุลาคม 2568 สำนักข่าวต่างประเทศ Reuters รายงานว่า สำนักงานป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนแห่งฟิลิปปินส์ เปิดเผยเมื่อวันพุธว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวขนาด 6.9 ที่เกิดขึ้นนอกชายฝั่งภาคกลางของประเทศเมื่อคืนวันอังคาร เพิ่มขึ้นเป็น 72 รายแล้ว
หน่วยงานดังกล่าวระบุเมื่อวันพฤหัสบดีว่า มีผู้บาดเจ็บอีก 294 ราย โดยจำนวนผู้เสียชีวิตล่าสุดเพิ่มขึ้น 3 รายจากเมื่อวันพุธ ทั้งหมดอยู่ในพื้นที่ภูมิภาควิสายาส ซึ่งเป็นบริเวณภาคกลางของฟิลิปปินส์
การกู้ภัยยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ผู้รอดชีวิตในเมืองโบโก เมืองที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด เผชิญปัญหาไฟฟ้าดับในวงกว้าง บ้านเรือนพังเสียหาย และสถานพยาบาลที่ต้องรองรับผู้ป่วยเกินขีดความสามารถ
ประชาชนจำนวนมากต้องพักค้างนอกบ้านในเต็นท์หรือภายในยานพาหนะของตนเอง โดยมารวมตัวกันในพื้นที่เปิดโล่งเพื่อรับสิ่งของบรรเทาทุกข์ยามค่ำคืน บริเวณที่ได้รับผลกระทบมีบ้านเรือนเสียหายรุนแรง ทั้งจากระเบียงที่ถล่มลงมาและโครงสร้างไม้กับสังกะสีที่พังทลาย ขณะเดียวกัน ชาวบ้านบางส่วนยังคงอาศัยอยู่ในบ้านที่ชำรุดแม้จะมีความเสี่ยงสูงก็ตาม
ความหวาดกลัวต่อแรงสั่นสะเทือนหลังแผ่นดินไหว หรืออาฟเตอร์ช็อก รวมทั้งความเสียหายของอาคาร ทำให้โรงพยาบาลประจำจังหวัดเซบูในเมืองโบโก ต้องย้ายผู้ป่วยติดเตียงออกมารับการรักษาที่ลานจอดรถ ทั้งการให้น้ำเกลือและออกซิเจน นอกจากนี้ โรงพยาบาลยังถูกใช้เป็นศูนย์ประสานงานสำหรับการกู้ภัยและการรายงานผู้บาดเจ็บ
ช่วงเช้าวันพุธ ยานพาหนะของกองทัพที่บรรทุกสิ่งของบรรเทาทุกข์ได้เดินทางมาถึงพื้นที่ประสบภัยในเซบู เพื่อนำเสบียงที่จำเป็นไปแจกจ่ายให้แก่ชุมชนที่ได้รับผลกระทบ
เหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นในทะเลนอกชายฝั่งเกาะเซบูในเวลากลางคืน ส่งผลให้สายไฟฟ้า สะพาน และอาคารหลายแห่ง รวมถึงโบสถ์อายุเกิน 100 ปี ได้รับความเสียหาย
แผ่นดินไหวที่เซบูครั้งนี้นับเป็นเหตุการณ์ที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดของฟิลิปปินส์ตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมา ซึ่งครั้งนั้นเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.2 ที่เกาะโบฮอลใกล้เคียง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 222 ราย