เมื่อวันที่ 25 ก.ย. 2568 เว็บไซต์ต่างประเทศ NEW YORK POST ได้มีการรายงานเหตุสะเทือนใจในประเทศเม็กซิโก เมื่อเด็กหญิงวัย 14 ปี เข้ารับการผ่าตัดเสริมหน้าอกและสะโพกโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้เป็นพ่อ ส่งผลให้เธอเข้าสู่ภาวะโคม่า สมองบวม และมีปัญหาหัวใจ ก่อนเสียชีวิตในที่สุด ตอนแรกผู้เป็นแม่โกหกลูกสาวเสียชีวิตจากโควิด-19
โดย คาร์ลอส อเรยานโย พ่อของเด็กหญิง เปิดเผยว่า ในตอนแรกได้รับแจ้งอดีตภรรยาว่าลูกสาวเสียชีวิตเพราะภาวะแทรกซ้อนจากโควิด-19 แต่เมื่อได้เห็นร่างลูกครั้งสุดท้ายกลับพบความผิดปกติ ญาติๆ สังเกตได้ว่าหน้าอกใหญ่ขึ้นกว่าก่อนหน้านี้ เขาจึงตรวจสอบด้วยตนเองและพบร่องรอยการศัลยกรรมพร้อมถ่ายภาพเป็นหลักฐาน จนนำไปสู่การร้องขอชันสูตรพลิกศพทันที
พ่อของเด็กหญิง กล่าวหาว่า อดีตภรรยาของเขาได้ยินยอมให้ลูกสาวเข้ารับการผ่าตัดโดยแฟนหนุ่มของเธอ วัย 45 ปี ซึ่งเป็นศัลยแพทย์ที่ถูกระบุชื่อเพียงว่า “วิกเตอร์ เอ็น เจ้าของคลินิก และทั้งคู่ร่วมกันปกปิดข้อเท็จจริงจนทำให้บุตรสาวของตนเสียชีวิต
สำนักงานอัยการสูงสุดเม็กซิโก เผยว่า ขณะนี้มีการสอบสวนความบกพร่องของแม่ผู้ตายที่นำบุตรซึ่งยังเป็นผู้เยาว์เข้าสู่สถานการณ์เสี่ยง อีกทั้งยังมีการสั่งพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพของศัลยแพทย์ดังกล่าวแล้ว รวมถึงตรวจสอบการกระทำผิดฐานประมาทเลินเล่อทางการแพทย์ และอาจเข้าข่าย x่าคนxายโดยประมาท ขึ้นอยู่กับผลการชันสูตรที่จะแล้วเสร็จภายในกว่า 10 วัน
ทั้งนี้ ประเทศเม็กซิโก แม้ไม่มีกฎหมายกำหนดอายุขั้นต่ำสำหรับศัลยกรรมตกแต่ง แต่โดยหลักปฏิบัติต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองทั้งสองฝ่ายหากผู้เข้ารับการผ่าตัดอายุต่ำกว่า 18 ปี
อย่างไรก็ตาม พ่อของผู้เสียชีวิตได้ออกมาเคลื่อนไหวเชิงสังคม เปิดแคมเปญและจัดการเดินขบวนภายใต้สโลแกน เด็กผู้หญิงไม่จำเป็นต้องมีซิลิโคน เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมและต้านกระแสการทำให้เด็กหญิงตกเป็นวัตถุทางเพศ นอกจากนี้ เขาได้โพสต์ในอินสตาแกรมระบุข้อความว่า เราไม่อาจปล่อยให้ความทะเยอทะยานของผู้ใหญ่บางคนทำให้ชีวิตเด็กต้องตกอยู่ในความเสี่ยงได้อีกต่อไป เด็กหญิงสมควรเติบโตอย่างปลอดภัย ได้รับการคุ้มครอง และได้รับความเคารพ
ข้อมูล NEW YORK POST