เมื่อวันที่ 10 ก.ย.2568 ที่ผ่านมา องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ (นาซา) แถลงข่าวถึงการค้นพบสำคัญจากยานสำรวจ Perseverance ซึ่งตรวจพบจุดลายเสือดาวพร้อมสารอินทรีย์บนหินชื่อ Cheyava Falls ภายในปล่องภูเขาไฟ Jezero Crater บนดาวอังคาร การวิเคราะห์เบื้องต้นชี้ว่าร่องรอยดังกล่าวอาจเป็นหลักฐานชีวิตโบราณที่ชัดเจนที่สุดที่เคยเจอมา และสะท้อนความเป็นไปได้ว่าจุลินทรีย์เคยอาศัยอยู่ในทะเลสาบโบราณเมื่อราว 3,500 ล้านปีก่อน
ฌอน ดัฟฟี รักษาการผู้บริหารนาซา เปิดเผยว่าหลังจากทีมวิทยาศาสตร์ทำการตรวจสอบนานกว่า 1 ปี ไม่พบคำอธิบายทางธรณีเคมีใดที่เหมาะสมสำหรับรอยประหลาดบนก้อนหินนี้ นอกจากกระบวนการทางชีวภาพ ซึ่งทำให้การค้นพบครั้งนี้ถูกยกให้เป็นร่องรอยชีวิตโบราณที่ชัดเจนที่สุดเท่าที่มีการพบเจอ
สำหรับหิน Cheyava Falls ตั้งอยู่ในพื้นที่ Bright Angel บริเวณหุบเขาแม่น้ำ Neretva Vallis ซึ่งเคยเป็นทางน้ำที่ไหลเข้าสู่ทะเลสาบในปล่อง Jezero Crater โดยยาน Perseverance ลงจอดในพื้นที่นี้ตั้งแต่เดือน ก.พ.2564 เพื่อสำรวจหลักฐานร่องรอยของน้ำในอดีต ต่อมาในเดือน ก.ค.2567 มีการเก็บตัวอย่างหิน Sapphire Canyon จากหินทรงหัวลูกศร และพบทั้งจุดสีดำเล็ก ๆ คล้ายเมล็ดป๊อปปี้ รวมถึงรอยขนาดใหญ่ที่เรียกว่าจุดลายเสือดาว ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงปฏิกิริยาเคมีที่เชื่อมโยงกับสิ่งมีชีวิต
เคธี สแต็ก มอร์แกน นักวิทยาศาสตร์โครงการ Perseverance จาก Jet Propulsion Laboratory (JPL) กล่าวว่าการค้นพบครั้งนี้เกิดจากความร่วมมือของนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรกว่า 1,000 คน โดยเครื่องมือ SHERLOC สามารถตรวจจับสารประกอบอินทรีย์ในหิน ซึ่งถือเป็นตัวชี้วัดสำคัญของการมีอยู่ของสารอินทรีย์ในตะกอนโคลนโบราณ ขณะเดียวกันเครื่องมือ PIXL ก็ยังพบเหล็กและฟอสเฟตในจุดลายเสือดาว รวมไปถึงแร่แคลเซียมซัลเฟต และอาจมีแร่ฮีมาไทต์ ซึ่งล้วนสะท้อนถึงการไหลเวียนของน้ำในอดีต และสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการดำรงชีวิต
ด้านโจเอล ฮูโรวิทซ์ นักวิทยาศาสตร์ดาวเคราะห์จากมหาวิทยาลัย Stony Brook อธิบายว่า จุดลายเสือดาวดังกล่าวอาจก่อตัวจากปฏิกิริยาเคมีที่เปลี่ยนสีหินจากแดงเป็นขาว พร้อมทั้งปลดปล่อยธาตุเหล็กและฟอสเฟตออกมา ซึ่งสามารถเป็นแหล่งพลังงานให้กับจุลินทรีย์ได้ ทั้งยังมีการตรวจพบแร่เฟอร์รัสไอร์ออนฟอสเฟตและไอร์ออนซัลไฟด์ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะก่อตัวในสภาพน้ำที่อุณหภูมิต่ำ คล้ายกับแหล่งที่จุลินทรีย์บนโลกใช้เพื่อความอยู่รอด
ขณะที่ ดร.ไมเคิล ไทซ์ นักธรณีชีววิทยาจากมหาวิทยาลัย Texas A&M ให้ความเห็นว่า แม้จุดลายเสือดาวอาจเกิดจากกระบวนการทางธรณีเคมีที่ไม่เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิต แต่เนื่องจากไม่พบหลักฐานว่าหินดังกล่าวเคยเผชิญความร้อนสูง จึงทำให้ต้องพิจารณาความเป็นไปได้ของการมีสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กคล้ายแบคทีเรียในทะเลสาบโบราณ อย่างไรก็ตาม การยืนยันต้นกำเนิดทางชีวภาพยังคงต้องอาศัยการวิเคราะห์ตัวอย่างในห้องปฏิบัติการบนโลก
ลินด์เซย์ เฮย์ส นักวิทยาศาสตร์จาก NASA’s Planetary Science Division แสดงความหวังว่าตัวอย่างหินเหล่านี้จะถูกนำกลับมายังโลกเพื่อพิสูจน์ว่าจุดลายเสือดาวเกิดขึ้นจากกระบวนการทางชีวภาพจริงหรือไม่ อย่างไรก็ดี ดัฟฟีได้กล่าวเพิ่มเติมว่าการนำตัวอย่างกลับโลกยังเผชิญข้อจำกัดด้านงบประมาณ และนาซากำลังหาวิธีและเทคโนโลยีเพื่อให้ภารกิจนี้ประสบความสำเร็จ
สแต็ก มอร์แกน กล่าวทิ้งท้ายว่าการวิเคราะห์บริบททางธรณีวิทยายังคงดำเนินการต่อไป และคาดว่าจะมีรายงานเพิ่มเติมออกมาในอีก 1 ปีข้างหน้า โดยการค้นพบนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของการแสวงหาคำตอบว่ามนุษย์อยู่อย่างโดดเดี่ยวในจักรวาลหรือไม่