วันที่ 29 ธ.ค.2568 มูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม – CRSJ Foundation ได้โพสต์ข้อความ กรณีแม่ของเด็กนักเรียนชั้นอนุบาล ถูกทางโรงเรียนโทรศัพท์มาบอกให้ลูกหยุดเรียนไปก่อน สาเหตุเพราะแม่ลงสตอรี่โดยไม่เอ่ยชื่อโรงเรียน หลังลูกถูกครูหยิก โดยมีข้อความรายละเอียดว่า
ลูกใครใครก็รัก แม่ร้องขอความเป็นธรรมลูก 3 ขวบ โรงเรียนเอกชนดัง จ.พิจิตร พักการเรียน จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผู้ปกครองได้เข้าพบและพูดคุยกับครูประจำชั้นและรองผู้อำนวยการโรงเรียนเป็นระยะเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เพื่อรับฟังคำชี้แจงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเด็กนักเรียนระดับอนุบาล ซึ่งเป็นช่วงวัยที่ยังไม่สามารถอธิบายเหตุการณ์ซับซ้อนหรือปกป้องตนเองได้อย่างชัดเจน

ภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก : มูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม - CRSJ Foundation
ผลการสรุปจากทางโรงเรียนระบุว่า ไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะเอาผิดครูผู้เกี่ยวข้อง โดยให้เหตุผลประกอบหลายประการ อาทิ การให้เด็กอนุบาลชี้ตัวบุคคลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งต่อมาถูกสรุปว่าเด็ก “ชี้ตัวผิด” ทั้งที่เป็นที่ทราบกันดีว่า เด็กในช่วงวัยดังกล่าวยังมีข้อจำกัดด้านความเข้าใจ การจดจำ และการสื่อสาร
กล้องวงจรปิดภายในโรงเรียนไม่สามารถใช้งานได้ โดยชี้แจงว่าอยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบ ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่เกิดเหตุการณ์ ทำให้ไม่สามารถนำภาพจากกล้องมาใช้เป็นหลักฐานได้
ทางโรงเรียนสอบถามเด็ก และได้ข้อสรุปว่าเด็ก หกล้มเอง อย่างไรก็ตาม ร่องรอยการบาดเจ็บและรอยช้ำที่ปรากฏในบางบริเวณ เป็นสิ่งที่ผู้ปกครองมีข้อสงสัยอย่างมากว่า สอดคล้องกับการหกล้มตามคำชี้แจงหรือไม่
ผู้ปกครองเข้าใจถึงข้อจำกัดด้านกระบวนการตรวจสอบ และการใช้หลักฐาน แต่ในขณะเดียวกันก็อดตั้งคำถามไม่ได้ว่า กระบวนการทั้งหมดได้คำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของเด็ก เป็นศูนย์กลางอย่างแท้จริงหรือไม่ และการสรุปผลโดยอาศัยคำอธิบายจากเด็กเพียงอย่างเดียว รวมถึงการขาดหลักฐานจากกล้องวงจรปิด เป็นสิ่งที่เพียงพอแล้วหรือไม่ในการปิดข้อสงสัยทั้งหมด
ภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก : มูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม - CRSJ Foundation
เหตุการณ์ในครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของการหาข้อสรุปว่าใครถูกหรือผิดเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของ ความรู้สึก ความเชื่อมั่น และความปลอดภัยของเด็กนักเรียน ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ปกครองทุกคนคาดหวังจากสถานศึกษา
การพูดคุยในครั้งนี้ แม้จะได้รับคำชี้แจงจากทางโรงเรียนแล้ว แต่ก็ยังคงเป็นเหตุการณ์ที่ฝังใจ และยากที่จะทำให้ผู้ปกครองคลายความกังวลได้อย่างสมบูรณ์ ผู้ปกครองจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า สถานศึกษาจะทบทวนและพัฒนากระบวนการดูแล ตรวจสอบ และป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ซ้ำอีก และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่า โรงเรียนคือสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับเด็กทุกคน
แนวทางดำเนินการของมูลนิธิฯ พาผู้ปกครองยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อ กระทรวงศึกษาธิการ เนื่องจากเป็นเคสที่ละเอียดอ่อนซึ่งต่อมาทาง ศึกษาจังหวัดพิจิตร ได้เชิญผู้ปกครอง มาพูดคุยเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง โดยยังไม่ได้ข้อสรุป
ภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก : มูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม - CRSJ Foundation