ช็อกโลกตะวันออกกลาง! โซเชียลอิหร่านพูดถึงกองทัพไทยถล่มทลาย
ข่าวสังคม - โซเชียล

ช็อกโลกตะวันออกกลาง! โซเชียลอิหร่านพูดถึงกองทัพไทยถล่มทลาย

วันที่ 23 ธันวาคม 2568 กระแสสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ได้รับความสนใจในระดับนานาชาติอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในประเทศตะวันออกกลาง ล่าสุดปรากฏรายงานว่า สื่อและผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียในประเทศอิหร่าน ซึ่งเป็นชาติที่เผชิญภาวะสงครามมาอย่างยาวนาน ต่างให้ความสนใจต่อบทบาทและขีดความสามารถของประเทศไทยอย่างมาก

รายงานระบุว่า กระแสการพูดถึงประเทศไทยในโลกออนไลน์ของอิหร่านเพิ่มสูงขึ้นอย่างชัดเจน โดยผู้ใช้จำนวนมากแสดงความสนใจต่อศักยภาพของกองทัพไทย ทั้งในมิติทางทหารและการทูต พร้อมตั้งคำถามถึงความสามารถของไทยในการจัดหาและใช้งานยุทโธปกรณ์จากหลากหลายประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ตกอยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรจากมหาอำนาจโลก

สื่อสังคมออนไลน์ในอิหร่านจำนวนมากชี้ว่า ภาพการปฏิบัติการทางทหารของไทยสะท้อนความเป็นสากล อย่างเด่นชัด ทั้งการใช้อากาศยาน F-16 จากสหรัฐอเมริกา ปฏิบัติการร่วมกับเครื่องบินกริพเพนจากสวีเดน ตลอดจนการใช้ปืนใหญ่จากหลายประเทศ เช่น ระบบซีซาร์ของฝรั่งเศส ระบบ ATMOS 2000 จากอิสราเอล และระบบปืนใหญ่ที่พัฒนาจากเทคโนโลยีแคนาดา ซึ่งถูกมองว่าเป็นการผสานยุทโธปกรณ์จากหลายค่ายได้อย่างกลมกลืน

ชาวอิหร่านจำนวนมากตั้งข้อสังเกตว่า การเชื่อมโยงระบบอาวุธจากต่างประเทศที่มีมาตรฐานและเทคโนโลยีแตกต่างกัน ถือเป็นเรื่องที่ทำได้ยากในระดับสากล แต่กองทัพไทยสามารถบริหารจัดการและบูรณาการระบบเหล่านี้ให้ทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างเครื่องบินรบจากคนละค่าย ซึ่งปกติแล้วมีข้อจำกัดด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูล

ในโลกออนไลน์ของอิหร่าน มีการกล่าวถึงระบบเชื่อมโยงข้อมูลที่กองทัพไทยพัฒนาขึ้นเอง ซึ่งช่วยให้ยุทโธปกรณ์จากหลายประเทศสามารถทำงานร่วมกันได้ พร้อมยกย่องความสามารถของบุคลากรไทยด้านวิศวกรรมและการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีทางทหาร

นอกจากนี้ ยังมีการวิเคราะห์ในหมู่ผู้เชี่ยวชาญและชาวเน็ตอิหร่านว่า ความแข็งแกร่งของไทยไม่ได้มาจากการมีประเทศมหาอำนาจใดหนุนหลังโดยตรง แต่เกิดจากเครือข่ายพันธมิตรทางการทูตที่หลากหลาย ไทยสามารถรักษาความสัมพันธ์กับหลายขั้วอำนาจ พร้อมจัดหายุทโธปกรณ์จากประเทศต่างๆ ได้โดยไม่ตกอยู่ในความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศ

ผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียในอิหร่านบางส่วนยังสะท้อนมุมมองว่า แนวทางการทูตของไทยเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ประเทศสามารถหลีกเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรและรักษาความร่วมมือกับนานาประเทศได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งแตกต่างจากหลายประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลางที่เผชิญข้อจำกัดจากสถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศ

ขณะเดียวกัน ยังมีการเปรียบเทียบระหว่างไทยกับกัมพูชา โดยมองว่าไทยอยู่ในระดับการทหารและการทูตสากล ขณะที่อีกฝ่ายยังขาดศักยภาพและการสนับสนุนในเวทีโลก ทั้งในด้านยุทโธปกรณ์ เทคโนโลยี และความร่วมมือระหว่างประเทศ

กระแสดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่เพียงได้รับความสนใจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เท่านั้น แต่ยังถูกจับตามองจากประเทศที่มีประสบการณ์ด้านสงครามอย่างอิหร่าน ซึ่งมองประเทศไทยในฐานะประเทศที่มีศักยภาพทั้งด้านการทหารและการทูตในระดับโลก

ชมคลิป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง