ไม่ใช่เรื่องเล่น เสี่ยงคุกจริง! ทนายแก้ว เปิดข้อกฎหมาย ปมทีมชาติไทยโกงซีเกมส์
ข่าวสังคม - โซเชียล

ไม่ใช่เรื่องเล่น เสี่ยงคุกจริง! ทนายแก้ว เปิดข้อกฎหมาย ปมทีมชาติไทยโกงซีเกมส์

วันที่ 18 ธันวาคม 2568 ทนายแก้วได้โพสต์ผ่านเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุถึงความเสี่ยงทางกฎหมายจากกรณีทุจริตของนักกีฬา E-Sports ทีมชาติไทย ในการแข่งขัน RoV ศึกซีเกมส์ที่ผ่านมา โดยชี้ว่าผู้เกี่ยวข้องอาจต้องเผชิญความผิดหลายด้าน ไม่ใช่เพียงแค่การผิดกติกาการแข่งขัน

ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นหลังมีการตั้งข้อสงสัยต่อนักกีฬา E-Sports ทีมชาติไทย ว่ามีการทุจริตการแข่งขัน RoV ในศึกซีเกมส์ จากการตรวจพบพฤติกรรมใช้โปรแกรมสื่อสารภายนอกระหว่างแข่งขัน รวมถึงการล็อกอินซ้อนเพื่อให้บุคคลอื่นเข้าเล่นแทน จนสมาคมกีฬาอีสปอร์ตแห่งประเทศไทยมีมติถอนทีมออกจากการแข่งขัน เพื่อป้องกันความเสียหายและรักษาศักดิ์ศรีของประเทศ

จากกรณีดังกล่าว ทนายแก้วได้อธิบายถึงความเสี่ยงทางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้น โดยไม่ใช่เพียงแค่การผิดกติกาวงการกีฬา แต่ลามไปถึงความผิดตามกฎหมายหลายประเด็น

ประเด็นแรก มีโอกาสเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 กรณีสมัครแข่งขันในนามของตนเอง แต่กลับให้ผู้อื่นเข้าเล่นแทน ทำให้สมาคมหรือผู้จัดการแข่งขันเข้าใจผิด หากมีการได้รับเงินรางวัลหรือสิทธิประโยชน์ในฐานะนักกีฬาทีมชาติ จะถือเป็นการใช้กลอุบายเพื่อให้ได้มาซึ่งประโยชน์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยประเด็นสำคัญต้องพิสูจน์ให้ได้ว่ามีการได้รับผลประโยชน์จริง

ประเด็นที่สอง ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หากมีการใช้โปรแกรมอย่าง Discord เพื่อรีโมตหรือแชร์หน้าจอ รวมถึงการล็อกอินซ้อนระหว่างการแข่งขัน อาจเข้าข่ายการใช้ระบบคอมพิวเตอร์โดยมิชอบ หรือการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยเฉพาะในกรณีที่มีหลักฐาน Log และ IP ชัดเจน ซึ่งมีโทษทั้งจำและปรับตามกฎหมาย

ประเด็นที่สาม ผู้ที่เข้ามาเล่นแทน หากรู้เห็นเป็นใจและร่วมกันกระทำ จะถือเป็นผู้ร่วมกระทำความผิด มีความผิดทางกฎหมายเช่นเดียวกัน ไม่ใช่เพียงแค่การทำผิดกติกาในวงการ E-Sports เท่านั้น

นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงในคดีแพ่ง โดยสมาคม ผู้จัดการแข่งขัน หรือแม้แต่เพื่อนร่วมทีม สามารถฟ้องเรียกค่าเสียหายได้ จากการสูญเสียโอกาสคว้าเหรียญรางวัล ความเสียหายต่อชื่อเสียงประเทศ และผลกระทบต่ออนาคตของนักกีฬาคนอื่น หากพิสูจน์ได้ว่าการกระทำเกิดจากความตั้งใจโกง ไม่ใช่อุบัติเหตุ

ส่วนข้ออ้างเรื่องอาการแพนิค ทนายแก้วมองว่าแทบช่วยในทางคดีไม่ได้ เนื่องจากแพนิคไม่ใช่ข้อยกเว้นความผิด และเมื่อพิจารณาพฤติการณ์ เช่น การซ่อนโทรศัพท์ การสลับหน้าจอ และการรีบขึ้นเวทีแข่งขัน ล้วนสะท้อนถึงการกระทำเชิงเจตนามากกว่าอาการป่วยเฉียบพลัน