ทำความรู้จัก อาการ หลับแล้วไม่ตื่น อยู่ใกล้ตัวกว่าที่คิด
ข่าวสังคม - โซเชียล

ทำความรู้จัก อาการ หลับแล้วไม่ตื่น อยู่ใกล้ตัวกว่าที่คิด

จากกรณี นักข่าวช่องดัง พี่นัท - ณัฐวุฒิ ปงลงกา ผู้สื่อข่าวช่อง 8 ได้เสียชีวิตเมื่อคืนที่ผ่านมา ก่อนหน้านั้นพี่นัทยังจัดรายการร่วมกับไอซ์ สารวัตร และคุณพุทธ จากนั้นกลับบ้านและหลับไปที่บ้านพัก แต่เช้าวันต่อมาพบว่าเสียชีวิต สาเหตุเบื้องต้นคือ พี่นัทหลับแล้วไม่ตื่น

เว็บไซต์ โรงพยาบาลพระราม 9 ให้ความรู้ว่า อาการหลับไม่ตื่นขณะนอนหลับหรือที่เรียกว่าโรคไหลตาย (Sudden Unexplained Nocturnal Death syndrome SUNDS) มักเกิดจากความผิดปกติของการนำไฟฟ้าหัวใจหรือโครงสร้างหัวใจผิดปกติ ปัจจัยสำคัญคือ Brugada Syndrome หรือบรูกาด้า ซินโดรม ซึ่งเป็นโรคทางกรรมพันธุ์ เกิดจากยีนที่ควบคุมไฟฟ้าในหัวใจผิดปกติ ทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะรุนแรงและอาจเสียชีวิตขณะนอนหลับ

แม้คนทั่วไปจะได้ยินข่าวแล้วกังวล แต่ความเสี่ยงเกิดโรคนี้จริงๆ พบเพียง 0.004% ของประชากร ในประเทศไทยพบผู้ป่วย Brugada Syndrome ประมาณ 40 คนต่อประชากร 100,000 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้ชายวัย 20-50 ปี

ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ควรสังเกต ได้แก่ มีประวัติบุคคลในครอบครัวเสียชีวิตเฉียบพลันตั้งแต่อายุน้อย หรือเคยมีอาการหน้ามืด หมดสติโดยไม่ทราบสาเหตุ อาการที่อาจเกิดขึ้นก่อนเสียชีวิต ได้แก่ ใจสั่น, หมดสติชั่วขณะ, วูบ เป็นลม, เวียนศีรษะ, ชัก, หายใจลำบาก, เจ็บหน้าอก หรือหัวใจเต้นผิดจังหวะรุนแรง

การวินิจฉัยทำได้โดยตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG) เพื่อตรวจลักษณะคลื่นไฟฟ้าหัวใจว่าตรงกับ Brugada Syndrome หรือไม่ อาจตรวจโครงสร้างหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูง (echocardiography), ตรวจระบบไฟฟ้าหัวใจภายใน (EP study) หรือทางพันธุกรรม (genetic testing)

ผู้ที่พบความเสี่ยงควรหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นหัวใจเต้นผิดจังหวะ เช่น มีไข้สูง, ดื่มแอลกอฮอล์, ร่างกายขาดน้ำหรือแร่ธาตุ, ใช้ยาบางชนิด และควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยานอนหลับหรือยาที่มีผลต่อแร่ธาตุในร่างกาย

การรักษายังไม่มีวิธีรักษาโดยตรง แพทย์จะลดความเสี่ยงการเสียชีวิตจากหัวใจเต้นผิดจังหวะ เช่น การฝังเครื่องกระตุกหัวใจหรือเครื่องช็อตไฟฟ้าหัวใจ (AICD), การใช้ยาควบคุมการเต้นของหัวใจ หรือการจี้ไฟฟ้าหัวใจ (RFA) โดยพิจารณาความเหมาะสมในผู้ป่วยแต่ละราย

เรียบเรียง สยามนิวส์